เล่าเรื่อง คนจับช้าง (นวนิยายเรื่อง เมี่ยงคำ)

ปู่ใหญ่นั่งสูบบุหรี่ใบจากพ่นควันอย่างสบายอารมณ์อยู่บนกองฟืน  ที่ผ่าเสร็จแล้ว ใกล้กับกองฟืนมีศาลเก่าอยู่หลังหนึ่งสร้างขึ้นจากไม้เนื้อแข็ง ลักษณะศาลมีสี่เสาหลังคามุงด้วยสังกะสี ด้านหน้าเปิดโล่งมองเข้าไปด้านในเห็นขดเชือกเก่า ๆ ม้วนเก็บอยู่ ศาลนี้คงถูกปล่อยทิ้งร้างมานานแล้วเพราะมีฝุ่นจับหนาเตอะและหยากไย่ใยแมงมุมเกาะเกี่ยวเป็นสายระโยงระยางอยู่เต็มไปหมด เมื่อฉันเดินเฉียดเข้าไปใกล้ ๆ ก็รู้สึกขนลุกซู่! ขึ้นมาทันที

ตำนานนายฮ้อย คาวบอยไทยแลนด์ (นวนิยายเรื่อง เมี่ยงคำ)

  เวลาที่ฉันไปนั่งเล่นกับปู่ แกจะชอบนำเรื่องราวในอดีตมาเล่าให้ฟังอยู่เสมอ แววตาและน้ำเสียงของแกแฝงไปด้วยความสุขเมื่อได้ถ่ายทอดประสบการณ์ในความทรงจำเมื่อครั้งอดีตออกมาเป็นถ้อยคำ

บทนำ บ้านหลังเก่ากับชีวิตใหม่(นวนิยาย เมี่ยงคำ)

วันหนึ่งของฤดูหนาวเดือนธันวาคมที่หนาวจับขั้วหัวใจ ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งแถวชายแดนไทย-ลาวของจังหวัดที่มีคำขวัญว่า  “เมืองแห่งทะเลภูเขา สุดหนาวในสยาม” เด็กทารกเพศหญิงผิวขาวราวกับแม่คะนิ้งเกาะอยู่บนยอดหญ้าในฤดูหนาวได้ถือกำเนิดขึ้นและนั่นก็คือวันแรกที่ ‘ฉัน’ ได้ลืมตาดูโลก

ตอนที่ 2 ท้องทุ่งสีทองกับปากท้องของชาติ(นวนิยาย เมี่ยงคำ)

ท้องฟ้าในฤดูหนาววันนี้เป็นสีครามสว่างสดใสตัดกับสีส้มจัดของดวงอาทิตย์ยามสายช่างสวยงามชวนมองยิ่งนัก แต่ลมหนาวก็ยังพัดกระหน่ำจนกิ่งไม้ใบหญ้าทุกต้นในบริเวณนี้โบกสะบัดสั่นไหวอย่างแรง นำพาเสียงหวีดหวิวครวญครางลอยมาแต่ไกลฟังแล้วชวนขนหัวลุก น้ำค้างที่จับตัวแข็งเป็นเกล็ดเพราะอุณหภูมิลดต่ำลงเริ่มละลายเป็นหยดน้ำเกาะอยู่บนยอดหญ้า ส่งประกายระยิบระยับเมื่อกระทบแสงส่องจากดวงอาทิตย์