ตำนานนายฮ้อย คาวบอยไทยแลนด์ (นวนิยายเรื่อง เมี่ยงคำ)
เวลาที่ฉันไปนั่งเล่นกับปู่ แกจะชอบนำเรื่องราวในอดีตมาเล่าให้ฟังอยู่เสมอ แววตาและน้ำเสียงของแกแฝงไปด้วยความสุขเมื่อได้ถ่ายทอดประสบการณ์ในความทรงจำเมื่อครั้งอดีตออกมาเป็นถ้อยคำ
เวลาที่ฉันไปนั่งเล่นกับปู่ แกจะชอบนำเรื่องราวในอดีตมาเล่าให้ฟังอยู่เสมอ แววตาและน้ำเสียงของแกแฝงไปด้วยความสุขเมื่อได้ถ่ายทอดประสบการณ์ในความทรงจำเมื่อครั้งอดีตออกมาเป็นถ้อยคำ
ปู่ใหญ่เป็นชายชราอายุ ๘๐ ปี บนร่างกายมีแต่ริ้วรอยเหี่ยวย่นเพราะกรำงานหนักมาตั้งแต่วัยหนุ่ม แววตาเรียบนิ่งแต่แฝงความใจดี
‘เมี่ยงคำ’ เป็นชื่อที่แม่ตั้งให้เมื่อตอนฉันเกิด ฉันต้องขอสารภาพอย่างอาย ๆ ว่าตอนเป็นเด็กฉันไม่เคยชอบชื่อนี้เลย! เพราะมันแสนจะเชยและเห่ยสิ้นดี
ท้องฟ้าในฤดูหนาววันนี้เป็นสีครามสว่างสดใสตัดกับสีส้มจัดของดวงอาทิตย์ยามสายช่างสวยงามชวนมองยิ่งนัก แต่ลมหนาวก็ยังพัดกระหน่ำจนกิ่งไม้ใบหญ้าทุกต้นในบริเวณนี้โบกสะบัดสั่นไหวอย่างแรง นำพาเสียงหวีดหวิวครวญครางลอยมาแต่ไกลฟังแล้วชวนขนหัวลุก น้ำค้างที่จับตัวแข็งเป็นเกล็ดเพราะอุณหภูมิลดต่ำลงเริ่มละลายเป็นหยดน้ำเกาะอยู่บนยอดหญ้า ส่งประกายระยิบระยับเมื่อกระทบแสงส่องจากดวงอาทิตย์