เครื่องใช้ประเภทผ้า เป็นวัสดุอุปกรณ์หัวใจหลักของธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ททุกแห่ง และมันก็เป็นเรื่องชวนปวดหัวอยู่ไม่น้อยสำหรับเจ้าของกิจการว่าจะควบคุมเครื่องใช้ประเภทผ้าในโรงแรมอย่างไรไม่ให้สูญหาย ป้องกันพนักงานและแขกนำไปใช้งานผิดประเภทจนผ้าชำรุด เนื้อหาในบทความนี้จึงได้นำแนวทางแก้ไขมาแบ่งปันให้คุณได้อ่านกันค่ะ
คลิกอ่านต่อ ที่นี่
การควบคุมเครื่องใช้ประเภทผ้าของโรงแรม
พนักงานที่รับผิดชอบห้องผ้ามีหน้าที่ควบคุมจำนวนของผ้า โดยการนับจำนวนผ้าสกปรกทั้งหมดที่ส่งไปซักยังแผนกซักรีดและผ้าสะอาดที่ได้รับคืนมาในแต่ละวัน จากนั้นจะทำการสุ่มตรวจสอบเป็นจุด ๆ ในแต่ละช่วงเวลาที่กำหนด ในกรณีที่ผ้าถูกส่งมาจากส่วนต่าง ๆ ของโรงแรมจำเป็นต้องมีการตรวจนับเสมอเพื่อให้เห็นว่าผ้านั้นมีไม่พอใช้หรือมีจำนวนมากเกินไป
บางครั้งอาจมีการตรวจพบผ้าที่เกินจำนวนได้จากกองผ้าสกปรก ซึ่งอาจเป็นผ้าที่มีรอยชำรุดหรือรอยคาบสกปรกที่พนักงานทำความสะอาดห้องพักนั้นใส่ลงในตะกร้าสำหรับผ้าสกปรกโดยไม่ได้แยกผ้าเหล่านั้นออกมาซ่อมแซมที่ห้องตัดเย็บหรือแจ้งให้หัวหน้าทราบ เมือพบผ้าชำรุดไม่ควรใช้ผ้านั้นบริการแกเพราะแขกอาจทำให้ชำรุดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นโรงแรมควรมีการจัดภาชนะไว้สำหรับใส่ผ้าที่ชำรุดโดยเฉพาะและติดป้ายกำกับไว้ที่ภาชนะว่า “สำหรับผ้าที่ชำรุดหรือมีรอยเปื้อน”
การตรวจสอบต้นทุนผ้าที่ใช้หมุนเวียนทั้งหมดในห้องผ้าเป็นประจำทุก ๆ เดือน จะช่วยให้หัวหน้าแผนกแม่บ้านทราบถึงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น ซึ่งสามารถทำได้โดยการใช้แบบฟอร์มแสดงจำนวนและชนิดของผ้าเพื่อแสดงถึงจำนวนผ้าต่าง ๆ ที่มีอยู่และจำนวนผ้าที่ถูกขโมย
โรงแรมบางแห่งอาจทำสัญลักษณ์ของโรงแรมลงบนผ้าและวันที่ก่อนนำไปใช้ ซึ่งผู้ผลิตส่วนใหญ่สามารถทำให้ฟรีได้หากสั่งในปริมาณที่กำหนดแต่บางความเห็นก็มองว่าการทำสัญลักษณ์เป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์ เพราะผ้านั้นจะต้องเปลี่ยนโดยไม่ต้องคำนึงถึงเหตุผลและอายุของผ้านอกจากนี้ เราสามารถตรวจสอบจำนวนผ้าที่สั่งซื้อได้จากวันที่สั่งซื้อก็ได้ แต่หากโรงแรมใช้ผ้าต่างชนิดหรือต่างยี่ห้อก็จำเป็นที่จะต้องทำสัญลักษณ์แต่มีเหตุผลที่น่าสังเกตก็คือหากทำสัญลักษณ์ของโรงแรมลงไปบนผ้าก็อาจกระตุ้นให้แขกที่พักในโรงแรมขโมยผ้าไปเก็บเป็นของที่ระลึกได้
การควบคุมเครื่องใช้ประเภทผ้าของฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม
ผ้าที่ใช้ในแผนกอาหารและเครื่องดื่มจะเก็บไว้ในชั้นที่แยกต่างหากจากชั้นเก็บผ้าที่ใช้ในห้องพัก เพื่อความสะดวกในการหยิบและตรวจนับเนื่องจากผ้าในแผนกอาหารและเครื่องดื่มนั้นมีมากมายหลายชนิด หลายขนาดและหลายสี หากโรงแรมมีบริการที่เต็มรูปแบบ คือมีบริการทั้งห้องอาหาร ห้องจัดเลี้ยงและบริการอาหารให้ห้องพัก ควรระมัดระวังในเรื่องชองผ้าที่อาจใช้ปะปนกันได้ ดังนั้น จึงควรมีการแยกประเภทของผ้าที่ใช้ตามสถานที่และขนาดของโต๊ะหรือของผ้า สำหรับผ้าเช็ดปากควรมีการเรียงเป็นชั้นตามสี เพื่อให้ง่ายต่อการหยิบไปใช้งานแต่ไม่ควรวางซ้อนกันจนมากเกินไป (ตั้งละประมาณ 50 ผืน) นอกจากนี้ควรมีถังสำหรับใส่ผ้าวางไว้บริเวณที่ใช้งาน เช่น บริเวณห้องครัวหรือห้องจัดเลี้ยง แต่ต้องระมัดระวังเรื่องการสูญหายของผ้าและการนำเอาผ้าไปใช้งานผิดประเภท เช่น พนักงานเสิร์ฟอาจนำผ้าเช็ดปากไปเช็ดโต๊ะแล้วโยนลงในถังทิ้งผ้า เป็นต้น
การป้องกันการใช้ผ้าในทางที่ไม่ควร
การใช้ผ้าผิดประเภทหรือผิดวัตถุประสงค์เกิดขึ้นบ่อยมากในโรงแรม และเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ไม่ว่าจะเกิดกับพนักงานหรือแขก เช่น แม่บ้านนำผ้าเช็ดตัวแขกไปเช็ดฝุ่น ทำให้ผ้าขนหนูเกิดรอยคราบสกปรกฝังแน่นและต้องใช้สารเคมีที่รุนแรงเพื่อลบรอยผ้า เป็นผลให้เส้นใยผ้าถูกทำลายไปก่อนเวลาอันควร ถ้าผ้าขนหนูผืนนั้นซักไม่ออกก็จำเป็นต้องเปลี่ยนผืนใหม่ทำให้โรงแรมสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากขึ้นหรือบางกรณีที่แขกใช้ผ้าเช็ดผมหรือผ้าเช็ดมือไปเช็ดรองเท้าหรือนำกลับบ้านเป็นที่ระลึก บางโรงแรมจึงนำผ้าที่ไม่ใช้แล้วมาทำประโยชน์อย่างอื่น เช่น ใช้เป็นผ้าทำความสะอาดโดยนำไปย้อมสีสดถาวรเพื่อให้แตกต่างจากผ้าอื่นและเมื่อมีการตรวจสอบผ้าที่ใช้อยู่จะทราบทันทีว่ามีการใช้ผ้าถูกต้องหรือไม่
การส่งผ้า
หลังจากที่แผนกซักรีดได้ซักผ้าชนิดต่าง ๆ เรียบร้อยแล้วก็จะนำผ้ามาเก็บที่ห้องผ้าตามจำนวนที่ได้ส่งซัก ดังนั้น ก่อนที่พนักงานประจำห้องผ้าจะนำผ้าสะอาดวางบนชั้นควรจะต้องตรวจดูผ้าก่อนด้วยขั้นตอนดั้งนี้
– รอยชำรุดของผ้า
– ความสกปรกต่าง ๆ
– รอยพับของผ้าแต่ละชนิดวาถูกต้องหรือไม่
– ผ้าที่ไม่ใช่ของโรงแรม
ถ้าตรวจพบผ้าที่ชำรุดควรแยกออกเป็นผ้าที่ใช้ไม่ได้ และนำไปดัดแปลงเป็นผ้าอย่างอื่นได้ เช่น ผ้าทำความสะอาด
การตรวจนับผ้า
การตรวจนับผ้ามีความสำคัญมาก เพราะจะทำให้ทราบว่าขณะนี้โรงแรมมีผ้าเพียงพอที่หมุนเวียนใช้หรือไม่ ควรจะมีการสั่งซื้อผ้าใหม่ได้หรือยังและตรวจนับจำนวนผ้าที่สูญหาย
การตรวจนับผ้าควรทำสม่ำเสมอ เช่น ทุก ๆ 3 เดือน หรือทุกเดือน หรืออาจทำในช่วงเวลาที่มีแขกเข้าพักน้อย และควรทำให้เสร็จสิ้นภายในวันเดียวเพื่อป้องกันการสับสนด้านตัวเลข ผ้าทุกชิ้นจะต้องถูกตรวจนับรวมทั้งผ้าในห้องซักรีดด้วย
การเก็บผ้า
การเก็บผ้าที่ถูกวิธีจะทำให้ผ้ามีคุณภาพดี และอายุการใช้งานนาน เช่น
- ผ้าที่ใช้นาน ๆ ครั้ง ควรมีผ้าสะอาดคลุมกันเปื้อน
- ควรมีการนำเอาผ้ามาใช้อย่างเพียงพอ คือ มีการสร้าง Par Level ที่เหมาะสม
(อ่านเพิ่มเติมใน วิธีวางแผนจัดการของใช้ประเภทผ้า! เพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนห้องพักและแขกที่เข้าพักในโรงแรม คลิกที่นี่)
- มีระบบควบคุมผ้าที่ดีและมีระบบการตรวจนับผ้าที่แม่นยำ
- ผ้าที่เก็บเป็นผ้าสำรองไว้ในห้องผ้า ควรเก็บห่อไว้ด้วยกระดาษเดิมหลังจากผ่านการตรวจสอบแล้ว
- ควรใช้ผ้าทุกชิ้นแบบหมุนเวียนและควรมีการพักผ้าหลังจากซักรีดก่อนนำไปใช้ใหม่
- เพื่อให้การนับผ้าง่ายขึ้น ให้วางผ้าโดยเอาทางด้านพับออก (สันผ้า)
การชำรุดของผ้า
- เกิดจากการใช้ผ้าผิดประเภท
- ขาดการระมัดระวังเกี่ยวกับผ้าชื้น ผ้าสกปรก ซึ่งทำให้ผ้าเกิดเชื้อราหรือรอยเปื้อนฝังแน่น
- ขาดความระมัดระวังเวลาดังผ้าออกจากที่นอน ทำให้ผ้าฉีกขาด
- ขาดการป้องกันเวลาเก็บผ้า
- ขาดการตรวจตราการใช้งานของผ้า
- ใช้สารเคมีในการซักผ้ามากเกินไป หรือใช้ไม่ถูกกับประเภทของผ้า
- ขาดการใช้ผ้าหมุนเวียน หรือไม่มีการพักผ้า
- ขาดความระมัดระวังในการเคลื่อนย้ายผ้า
การซ่อมแซมผ้า
โดยทั่วไป จะนำผ้าไปซักให้สะอาดเสียก่อนหรือจะซ่อมแซมก่อนนำไปซักก็ได้ การซ่อมแซมอาจทำด้วยมือหรือเครื่องจัก โดยในห้องผ้าอาจแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้สำหรับซ่อมแซมผ้าที่ชำรุดซึ่งอาจมีจักรเย็บผ้าหรือเครื่องชุนผ้าที่ใช้สำหรับปะรอยชาดหรือแก้ไขรอยเปื้อนที่ไม่สามารถซักออกได้สำหรับการพิจารณาว่าผ้านั้นไม่สามารถซ่อมแซมได้แล้วนั้น จำเป็นต้องเป็นไปตามกฎที่โรงแรมกำหนดไว้และมีผู้ที่มีอำนาจเป็นผู้พิจารณา
โรงแรมขนาดกลางหรือโรงแรมที่มีห้องพักน้อยกว่า 100 ห้อง ผู้ดูแลคือหัวหน้าแม่บ้าน ส่วนโรงแรมขนาดใหญ่ที่มีห้องพักตั้งแต่ 500 ห้องขึ้นไปจะมีผู้ดูแลรับผิดชอบต่างหาก โดยมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดซื้อและจัดหาผ้าที่ต้องใช้ในโรงแรม-รีสอร์ท รวมทั้งประทับตราลงวันที่และจัดผ้าใหม่หรือผ้าที่ทิ้งแล้ว ตรวจสอบผ้าประจำชั้นเพื่อดูว่าผ้าผืนไหนควรนำไปซักใหม่ถ้าไม่สะอาดพอ แยกประเภทผ้าและนำจำนวนก่อนจะส่งไปที่แผนกซักรีด นอกจากนี้ควรบันทึกรายการต่อไปนี้ด้วย
- ติดตามดูผ้าทุก 6 เดือนหรือ 1 ปี รวมทั้งการหมุนเวียนและการสำรองผ้าไว้ใช้
- งบประมาณซื้อผ้าแล้วแต่ความจำเป็น
- การจัดหาผ้าใหม่
- บันทึกผ้าที่ทิ้งแล้ว
- บันทึกผ้าที่ต้องส่งซักเป็นครั้งที่ 2
กลวิธีในการควบคุมผ้านี้ไม่มีอะไรตายตัวนะคะ ขึ้นอยู่กับวิธีคิดและแนวทางบริหารจัดการของแต่ละท่านซึ่งแตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสมของประเภทธุรกิจโรงแรม แต่ก็หวังว่าเนื้อหาที่นำมาเสนอในบทความนี้จะเป็นแนวทางให้กับทุกท่านได้นำไปใช้สำหรับควบคุมและบริหารจัดการงานห้องผ้าของโรงแรม-รีสอร์ทได้อย่างสะดวกขึ้นค่ะ
“เราเชื่อว่าการแบ่งปันความรู้ คือพลังที่ยิ่งใหญ่”
ขอให้ทุกท่านจงสร้างธุรกิจโรงแรมที่ดี มีคุณภาพเพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยของเรา
หากคุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ
มาร่วมเรียนรู้ไปด้วยกันกับหลักสูตร เจ้าของโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็ก ใคร ๆ ก็เป็นได้
คอร์สอบรมที่ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมได้ ภายใน 2 วัน
หนังสือที่คนอยากทำธุรกิจโรงแรมต้องอ่าน!!!
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
มาเป็นเพื่อนกับเราทางไลน์!!!
ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารและบทความดีๆ