กำลังจะเปิดโรงแรม 70 ห้อง จะต้องใช้ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า จำนวนเท่าไหร่ดีนะ? ถึงจะเพียงพอต่อจำนวนห้องพักและปริมาณแขกที่เข้าพักในแต่ละวัน หลายท่านที่กำลังคิดจะเปิดธุรกิจโรงแรมคงจะมีคำถามนี้ผุดขึ้นในใจแน่ ๆ ถ้าอย่างนั้นเรามาหาคำตอบกันค่ะ
ฉันเชื่อว่าท่านเจ้าของธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ท หลายท่านคงจะปวดหัวกันไม่น้อยกับเรื่องของจำนวนผ้าที่จะใช้ให้เพียงพอกับจำนวนห้องพักของโรงแรมและรีสอร์ท เพราะไม่รู้ตัวเลขที่แน่นอนว่าเท่าไรถึงจะเพียงพอและกลัวว่าถ้าซื้อเก็บไว้ในสต๊อกมากเกินไปก็จะทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณในส่วนนี้โดยใช่เหตุ ซึ่งของใช้ประเภทผ้าต่าง ๆ นั้นคือหัวใจสำคัญที่สุดในแผนกแม่บ้านและเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจโรงแรมด้วยเช่นกัน ดังนั้นในบทความนี้ ฉันจึงหยิบยกเรื่องราวของการจัดสรรจำนวนผ้าที่ต้องใช้ในโรงแรมให้เพียงพอกับความต้องการ นำมาแบ่งปันให้ทุกท่านอ่านกันค่ะ
คลิกอ่านต่อ ที่นี่
ผ้าประเภทต่าง ๆ ที่ใช้ในโรงแรม แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- ผ้าปูเตียง ประกอบด้วย ผ้าปูเตียงขนาดต่าง ๆ ปลอกหมอน ผ้ารองกันเปื้อนที่นอนและผ้าคลุมเตียง
- ผ้าขนหนูสำหรับห้องน้ำ ประกอบด้วย ผ้าเช็ดตัวขนาดต่าง ๆ ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดเท้าและผ้าขนหนูอื่นๆ
- ผ้าปูโต๊ะ ประกอบด้วย ผ้าปูโต๊ะขนาดต่าง ๆ ผ้าเช็ดปาก และผ้าอื่นๆที่ใช้ในแผนกอาหารและเครื่องดื่ม
เมื่อโรงแรม-รีสอร์ทแต่ละแห่งต้องการรู้ว่าจะต้องใช้ของใช้ประเภทผ้าจำนวนเท่าไหร่จึงจะเพียงพอสำหรับความต้องการ (จำนวนที่เพียงพอนี้ หมายถึง เพียงพอกับจำนวนเตียงรวมทั้งผ้าที่ใช้ในห้องน้ำด้วย) ซึ่งการคำนวณจำนวนผ้าให้เพียงพอต่อความต้องการนี้จะใช้การสร้างระบบ Par Level มาเป็นตัวช่วยค่ะ
Par Level คืออะไร?
Par Level คือ ระดับของจำนวนวัสดุอุปกรณ์ที่แผนกแม่บ้านควรจะต้องมีไว้ในคงคลัง เพื่อใช้ในการทำงานในแต่ละวัน การพิจารณาจำนวน Par Level ของวัสดุอุปกรณ์จะแตกต่างกันระหว่า Recycled Inventory และ Non-Recycled Inventory ซึ่งการพิจารณาของ Recycled Inventory ก็ต้องขึ้นอยู่กับการทำงานร่วมกับแผนกอื่น ๆ ด้วย ของใช้ประเภทผ้า ขึ้นอยู่กับการทำงานของแผนกซักรีดว่าจะสามารถซักรีดผ้าเหล่านี้ได้รวดเร็วมากน้อยแค่ไหน
การสร้างระบบ Par Level สำหรับผ้าประเภทต่าง ๆ ของโรงแรม
หัวใจสำคัญของการสร้างระบบ Par Level ก็เพื่อกำหนดจำนวนผ้าประเภทต่าง ๆ ให้เพียงพอต่อการดำเนินงานของแผนกแม่บ้านและแผนกอื่น ๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เพราะถ้าหากเราตั้ง Par Level ของจำนวนผ้าประเภทต่าง ๆ ต่ำเกินไปก็จะทำให้การทำงานของทั้งแผนกเกิดสะดุด และมีผลทำให้แขกที่เข้ามาพักเกิดความไม่พอใจ เนื่องจากต้องรอห้องพักที่ยังทำความสะอาดไม่เสร็จและเสียโอกาสในการขายห้องพักด้วย และหากต้องซักผ้าบ่อย ๆ ก็จะทำให้ผ้าสูญเสียคุณภาพเร็ว แต่หากตั้ง Par Level ไว้สูงจนเกินไปก็จะทำให้เจ้าของกิจการต้องลงทุนกับผ้ามากเกินความจำเป็น ดังนั้น จำนวน Par Lervel สำหรับผ้าที่เหมาะสม คือ จำนวนผ้าที่มีเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปของแผนก มีคำศัพท์ที่นำมาใช้กับการกำหนดจำนวนผ้า คือคำว่า “One par of linen” หมายถืง จำนวนผ้าแต่ละชนิดที่เพียงพอสำหรับห้องพักแขกในทุกห้อง แต่แค่ one par of linen คงไม่เพียงพอสำหรับขั้นตอนการทำงานของแต่ละแผนก จึงมีคำว่า “two par of linen” หมายถึง จำนวนผ้าแต่ละชนิดที่เพียงพอสำหรับการทำงานสองครั้งหรือสองรอบ ซึ่งผู้บริหารหรือผู้จัดการแผนกแม่บ้านต้องเป็นผู้พิจารณาว่าจะกำหนด Par of Linen จำนวนเท่าไรให้เพียงพอต่อกระบวนการทำงานของทั้งแผนกที่เกี่ยวข้อง
หลักการพิจารณาสำหรับ Par Level
- จำนวน 3 PARS เป็นจำนวนที่น้อยที่สุด เหมาะสำหรับธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทที่มีขนาดเล็ก ซึ่งการกำหนดจำนวนผ้า 3 PAR ถือว่าเป็นมาตรฐาน เพราะนอกเหนือจากผ้าที่ใช้ในห้องพักแขกแล้ว โรงแรมมีเวลานำผ้าไปซักภายใน 1 วัน และยังมีผ้าไว้อีก 1 ชุดที่พักไว้เพื่อเตรียมไว้ให้แผนกแม่บ้านนำไปเปลี่ยน หรือสามารถนำมาทดแทนได้ในกรณีที่มีผ้าชำรุดหรือสูญหาย
- Par 1 สำหรับห้องเก็บผ้า
- Par 2 สำหรับห้องพักแขก
- Par 3 สำหรับห้องซักรีด
- จำนวน 5 PARS เป็นจำนวนผ้าที่มีเพียงพอต่อความต้องการซึ่งเหมาะสำหรับธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทขนาดใหญ่หรือโรงแรมที่มีปริมาณลูกค้าหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก
– Par 1 สำหรับห้องเก็บผ้า
– Par 2 สำหรับห้องพักแขก
– Par 3 สำหรับห้องซักรีด
– Par 4 สำหรับเอาไว้ทดแทน
– Par 5 สำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน
- โรงแรมที่นำผ้าออกไปซักข้างนอก จำนวนชุดผ้าของโรงแรมจะขึ้นอยู่กับความถี่ที่โรงซักผ้าข้างนอกนำผ้าที่ซักเสร็จแล้วมาส่งให้กับทางโรงแรม ถ้าโรงซักผ้าสามารถส่งผ้าได้บ่อยหรือถี่ ก็จะทำให้จำนวน Par Level ของชุดผ้าโรงแรมน้อยลง แต่ถ้าหากความถี่ในการส่งต่ำหรือไม่ส่งผ้าในช่วงเสาร์-อาทิตย์ ทางโรงแรมก็จะต้องมีจำนวนชุดผ้าของโรงแรมไว้สำรองเพิ่มขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน ทางโรงแรมจึงควรต้องวางแผนกับโรงซักผ้าข้างนอกเพื่อบริหารจัดการจำนวนชุดผ้าของโรงแรมให้เพียงพอต่อการใช้งาน
ตัวอย่าง
สำหรับโรงแรมที่มีห้องซักรีดเอง สมมติว่า โรงแรมมีห้องพักเตียงขนาด King Size จำนวน 70 ห้อง ใช้ผ้าปูเตียง 2 ชิ้น ในการปูเตียงแต่ละครั้ง และกำหนดจำนวน Par Level ไว้ที่ 5 PARS
– Par 1 สำหรับห้องเก็บผ้า = 1×140 = 140
– Par 2 สำหรับห้องพักแขก = 1×140 = 140
– Par 3 สำหรับห้องซักรีด = 1×140 = 140
– Par 4 สำหรับเอาไว้ทดแทน = 1×140 = 140
– Par 5 สำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน = 1×140 = 140
จำนวนผ้าปูที่นอนสำหรับเตียง King size ของห้องพักจำนวน 70 ห้อง = 700 ผืน
ถ้าต้องการรู้จำนวนของผ้าประเภทอื่น ก็สามารถใช้วิธีกำหนด Par Level ตามตัวอย่างข้างต้นนี้ดูนะคะ แล้วคุณจะสามารถหาจำนวนของใช้ประเภทผ้าในโรงแรมได้ค่ะว่าควรจะสต๊อกไว้จำนวนเท่าไรถึงจะเพียงพอสำหรับการใช้งาน และเมื่อรู้จำนวนผ้าที่ต้องการใช้แล้วมันก็จะช่วยคุณกำหนดงบประมาณในส่วนของใช้ประเภทผ้าได้ของธุรกิจโรงแรมได้ไม่ยากค่ะ
“เราเชื่อว่าการแบ่งปันความรู้ คือพลังที่ยิ่งใหญ่”
ขอให้ทุกท่านจงสร้างธุรกิจโรงแรมที่ดี มีคุณภาพเพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยของเรา
เพื่อแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และแรงบันดาลใจ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ
มาร่วมเรียนรู้ไปด้วยกันกับหลักสูตร เจ้าของโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็ก ใคร ๆ ก็เป็นได้
คอร์สอบรมที่ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมได้ ภายใน 2 วัน
หนังสือที่คนอยากทำธุรกิจโรงแรมต้องอ่าน!!!
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
มาเป็นเพื่อนกับเราทางไลน์!!!
ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารและบทความดีๆ
