
อยากสร้างธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทให้โดดเด่นและแตกต่างเหนือคู่แข่ง สิ่งแรกที่คุณต้องคำนึงถึงคือการออกแบบ และผู้ที่จะเนรมิตงานออกแบบโรงแรมในฝันให้คุณได้ก็คือสถาปนิกค่ะ
จากประสบการณ์ที่ได้พบเจอกับผู้เข้ารับการอบรม หลักสูตร เจ้าของโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็กใคร ๆ ก็เป็นได้ และหลังจากที่ได้พูดคุยกับผู้เข้าร่วมอบรม ก็ทำให้ทราบว่ามีหลายท่านที่ได้แบบแปลนมาแล้วและขอใบ อ.1 เพื่อขออนุญาตก่อสร้างผ่านแล้ว แต่ไม่รู้ว่าแบบแปลนที่ตนได้มาจากสถาปนิกนั้นสามารถดำเนินการขอใบอนุญาตโรงแรมผ่านหรือไม่ และหลายท่านก็ไม่รู้ขั้นตอนการทำงานร่วมกับสถาปนิก การส่งมอบงานและสิ่งที่จะได้รับในวันนัดส่งมอบงานจากสถาปนิกค่ะ ซึ่งหากเราเจอสถาปนิกที่ดีก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่หากบังเอิญได้เจอกับสถาปนิกที่ขาดจรรยาบรรณก็คงจะทำให้เสียทั้งเงินทองและเวลา ในบทความนี้ฉันจึงนำขั้นตอนการให้บริการของสถาปนิกและสิ่งที่จะได้รับในวันส่งมอบงาน พร้อมด้วยตัวอย่างวิธีคิดค่าบริการและงวดการชำระเงินมาแบ่งปันให้อ่านกันค่ะ
คลิกอ่านต่อ ที่นี่
สถาปนิก คือบุคคลที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเหมือน แพทย์ ทนาย ครู และวิศวกร มีทั้งสถาปนิกอิสระ (Freelance) และบริษัทสถาปนิก หน้าที่หลักคือ ออกแบบบ้านตามโจทย์ที่ได้รับจากเจ้าของโครงการผนวกกับพื้นฐานการออกแบบสถาปัตยกรรม โดยคำนึงถึงฟังก์ชั่นการใช้งานควบคู่ไปกับความสวยงาม นอกจากนี้ยังต้องติดต่อประสานงานกับฝ่ายต่างๆ ทั้งวิศวกร มัณฑนากร ช่างเขียนแบบ จัดทำแบบก่อสร้างและเอกสาร BOQ สำหรับนำไปประกวดราคาคัดเลือกผู้รับเหมา และอาจรวมถึงดำเนินการขออนุญาตก่อสร้างให้เรียบร้อย อีกทั้งยังเข้ามาตรวจสอบงานก่อสร้างหน้างานเป็นระยะด้วย โดยขึ้นอยู่กับข้อตกลงในสัญญาว่าจ้าง
ขั้นตอนให้บริการของสถาปนิก
- รับทราบความต้องการของลูกค้า และบันทึกรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อนำไปออกแบบให้ตรงกับความต้องการ
- ออกแบบเบื้องต้น คำนวณแบบ เลือกวัสดุที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับงบประประมาณของลูกค้า
- ออกแบบรายละเอียด
- คำนวณค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมกับเนื้องาน
- ทำแบบก่อสร้าง เตรียมแบบ และส่งแบบที่วาดโดยช่างเขียนแบบให้ลูกค้าพิจารณา
- เมื่อแก้ไขดัดแปลงแบบจนสมบูรณ์ถูกใจลูกค้าแล้ว จึงส่งแบบให้กับวิศวกรทำการก่อสร้าง
- ทำงานร่วมกับวิศวกรระหว่างก่อสร้างเพื่อให้ใช้วัสดุตามแบบที่ได้วางไว้ตามเงื่อนไขในสัญญา
สิ่งที่เจ้าของโรงแรม-รีสอร์ทต้องเตรียมก่อนพบสถาปนิก
- งบประมาณ เพราะเป็นปัจจัยหลักในการออกแบบและเลือกใช้วัสดุให้เมาะสมกับงบประมาณ
- โฉนดที่ดิน ในโฉนดที่ดินจะระบุขนาดและสถานที่ตั้งอย่างละเอียด เพื่อให้สถาปนิกนำไปคำนวณระยะถอยร่นของตัวโครงการจากถนน และพ้นที่ที่สามารถก่อสร้างได้ภายในแนวเขตที่ดิน รวมถึงกฎหมายควบคุมอาคารในเขตที่ดินนั้น ๆ เพื่อให้ออกแบบได้ถูกต้องตามกฎหมาย
- รูปแบบก่อสร้างที่ต้องการ เพื่อใช้ประกอบการพูดคุยและอธิบายกับสถาปนิกว่าต้องการให้รูปแบบโครงการออกมาในรูปแบบใด
เมื่อเลือกสถาปนิกได้แล้วสิ่งที่คุณจะต้องทำร่วมกับสถาปนิกในขั้นตอนจัดทำแบบร่าง คือ
- ตรวจสอบและทำความเข้าใจแบบร่าง การวางแปลนแต่ละชั้นมีพื้นที่ใช้งานครบถ้วน เช่น ตำแหน่งห้องต่าง ๆ พื้นที่ใช้สอยที่ต้องการ และเลือกรูปแบบให้ตรงกับสไตล์ที่ต้องการ
- เลือกวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช่ ทั้งวัสดุโครงสร้างและวัสดุตกแต่ง
- ดูหลักฮวงจุ้ย สำหรับท่านที่เชื่อในศาสตร์ฮวงจุ้ย ควรำซินแสหรืออาจารย์ที่นับถือมาตรวจสอบพื้นที่โครงการและดวงชะตาเจ้าของโครงการเพื่อกำหนดทิศทางในผังและแนวทางออกแบบแปลนตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้สถาปนิกนำข้อมูลที่ได้ไปประกอบการออกแบบ
- ระบบสาธารณูปโภค ระบบน้ำ ระบบไฟ ระบบปรับอากาศ ต้องแจ้งแก่สถาปนิกรวมถึงผู้เชี่ยวชาญระบบโดยตรง เพื่อทำการออกแบบให้สมบูรณ์ที่สุด เช่น การเลือกใช้ระบบน้ำร้อน เครื่องใช้ไฟฟ้ามีอะไรบ้าง ตำแหน่งปลั๊กไฟ สวิทซ์ไฟควบคุมการเปิด-ปิด เป็นต้น
- งานออกแบบภายในและงานจัดสวนโดยรอบโครงการ ถ้าเจ้าของโครงการต้องการใช้บริการออกแบบภายในโดยมัณฑนากรหรือต้องการออกแบบตกแต่งสวนโดยภูมิสถาปนิกเป็นพิเศษ ก็ควรแจ้งแก่สถาปนิกด้วยเช่นกันเพื่อให้งานออกแบบโครงการออกมาอย่างสอดคล้องกลมกลืนกัน รวมถึงการเตรียมโครงสร้างและระบบที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมกับรูปแบบโครงการ
ระหว่างที่แบบร่างของโครงการเริ่มลงตัวหรือมีการปรับแก้กับเจ้าของโครงการเสร็จแล้ว สถาปนิกจะเริ่มส่งแบบดังกล่าวแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ วิศวกรโครงสร้าง วิศวกรงานระบบต่าง ๆ มัณฑนากร ภูมิสถาปนิก ฯลฯ เพื่อให้ดำเนินการออกแบบและจัดทำแบบก่อสร้างที่มีรายละเอียดต่อไป ในขณะเดียวกัน สถาปนิกก็จัดทำแบบสถาปัตยกรรมไปด้วย จนสุดท้ายจะได้แบบก่อสร้าง ฉบับสมบูรณ์ เรียกว่า พิมพ์เขียว (Blue Print) มีการเซ็นรับรองโดยผู้จัดทำ พร้อมจะนำไปขออนุญาตสร้างกับทางสำนักงานเขตและประกวดราคาเลือกผู้รับเหมาก่อสร้าง ทั้งนี้ สำหรับเอกสารรายการคำนวณค่าวัสดุก่อสร้าง (BOQ) สถาปนิกจะจัดทำให้หากมีการระบุในสัญญาว่าจ้าง
รายละเอียดขอบเขตงานและการส่งมอบงานของสถาปนิก มีดังนี้ค่ะ
- แบบยื่นขออนุมัต 5 ชุด
- แบบก่อสร้าง 2 ชุด
- ภาพ 3D 1 View
- รายการคำนวณโครงสร้าง 1 ชุด ตามตกลง
- รายการบัญชีแสดงปริมาณ B.O.Q. (Bill of Quantities) 1 ชุด
- เอกสารใบประกอบวิชาชีพสถาปนิก 1 ชุด
- หนังสือรับรองงานออกแบบโดยสถาปนิก 1 ชุด
- เอกสารใบประกอบวิชาชีพวิศวกร 1 ชุด
- หนังสือรับรองงานออกแบบโดยวิศวกร 1 ชุด
- งานควบคุมงานก่อสร้าง/รับรองคุมงาน (ผู้รับเหมาเป็นผู้จัดหาผู้ควบคุมงานภายหลัง)
- CD-ROM บันทึกรายละเอียดงาน 1 ชุด
- บริการยื่นขออนุญาตหน่วยงานราชการ ตามตกลง
ตัวอย่างใบเสนอราคาออกแบบโครงการของสถาปนิก

ตัวอย่างภาพแบบร่าง



ตัวอย่างภาพภูมิทัศน์

หวังว่าข้อมูลที่นำมาแบ่งปันนี้ จะเป็นแนวทางให้กับทุกท่านที่กำลังวางแผนจะลงทุนก่อสร้างธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการเตรียมตัวจ้างสถาปนิกมาช่วยออกแบบโครงการให้นะคะ ถ้าต้องการดูวิธีคำนวณค่าจ้างออกแบบ ของสถาปนิกอย่างละเอียดสามารถเข้าไปอ่านได้ที่บทความ วิธีคำนวณค่าจ้างออกแบบโรงแรม-รีสอร์ท ของสถาปนิก ที่เจ้าของโรงแรมต้องรู้!!! คลิกที่นี่…
ถ้าต้องการก่อสร้างธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทของคุณให้แตกต่างและโดดเด่นเหนือคู่แข่ง สิ่งสำคัญในเบื้องต้นคือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณต้องชัดเจน เพื่อกำหนดแนวคิดที่ชัดเจน และนำแนวคิดนั้นมาถ่ายทอดให้กับสถาปนิกผู้ออกแบบโครงการให้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ทั้งรูปแบบอาคารห้องพัก อารมณ์ความรู้สึกที่ต้องการให้ลูกค้าสัมผัสในแต่ละพื้นที่ รวมถึงความสะดวกในการปฏิบัติงานและการบำรุงรักษาสำหรับทีมปฏิบัติงาน คุณต้องถ่ายทอดแนวคิดที่เป็นนามธรรมในหัวของคุณให้กับสถาปนิกเข้าใจและเห็นภาพเช่นเดียวกับที่คุณเห็นให้ได้ เพราะยิ่งคุณอธิบายแนวคิดได้ชัดเจนมากเท่าไรสถาปนิกก็จะได้ช่วยคุณสร้างฝันให้เป็นจริงได้มากเท่านั้น
“เราเชื่อว่าการแบ่งปันความรู้ คือพลังที่ยิ่งใหญ่”
ขอให้ทุกท่านจงสร้างธุรกิจโรงแรมที่ดี มีคุณภาพเพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยของเรา
หากคุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ
มาร่วมเรียนรู้ไปด้วยกันกับหลักสูตร เจ้าของโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็ก ใคร ๆ ก็เป็นได้
คอร์สอบรมที่ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมได้ ภายใน 2 วัน
หนังสือที่คนอยากทำธุรกิจโรงแรมต้องอ่าน!!!
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
มาเป็นเพื่อนกับเราทางไลน์!!!
ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารและบทความดีๆ