2,078
.
เมื่อนานมาแล้วมีสามีภรรยาคู่หนึ่ง มีอาชีพทำนาอยู่ในหุบเขา คนภรรยานั้นมีหน้าตาสะสวยงดงามมาก ทั้งสองสามีภรรยาเป็นคนจิตใจดีมีน้ำใจเอื้ออารีต่อผู้อื่นเสมอมา
ทุก ๆ วันสามีนั้นจะออกไปทำนา ส่วนคนภรรยาก็จะอยู่บ้านทำงานบ้านเตรียมข้าวปลาอาหารไว้รอสามีกลับมา วันหนึ่งสามีออกไปทำนาแต่เช้าเหมือนเช่นทุกวัน ขณะที่คนภรรยากำลังอยู่บ้านและหุงหาอาหารไว้รอสามีนั้นก็มีเสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือดังขึ้นอยู่ในหมู่บ้าน เมื่อคนเป็นภรรยาออกไปดูจึงเห็นชายคนหนึ่งมาร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ผู้ชายแปลกหน้าไล่เคาะประตูบ้านทุกบ้านเพื่อร้องขอความช่วยเหลือจนมาถึงบ้านของหญิงสาว ด้วยความเป็นคนมีน้ำใจเธอจึงเดินออกไปถามชายคนนั้นว่ามีเรื่องอะไร?
คลิกอ่านต่อ ที่นี่
ชายแปลกหน้าบอกว่าภรรยาของตนปวดท้องจะคลอดลูก แต่ในหมู่บ้านของตนไม่มีหมอตำแยเขาจึงเดินทางมาหาหมอตำแยที่หมู่บ้านนี้ แต่พอมาถึงที่นี่หมอตำแยกลับไม่อยู่ เขากลุ้มใจมากจึงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจากผู้คนในหมู่บ้าน ว่ามีใครพอจะช่วยทำคลอดได้หรือเปล่า เมื่อหญิงสาวได้ยินดังนั้นจึงคิดว่าชายคนนี้น่าสงสาร หากไม่มีหมอตำแยไปทำคลอด ภรรยาและลูกของเขาอาจจะไม่รอดชีวิตแน่ ๆ เธอจึงคิดว่าอยากช่วยเหลือเขา เพราะเธอเองเคยช่วยหมอตำแยทำคลอดมาหลายครั้งจึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เธอน่าจะทำคลอดช่วยภรรยาเขาได้ ดังนั้นแล้วเธอจึงอาสาไปช่วยภรรยาของชายแปลกหน้า
เมื่อเดินทางไปถึงบ้านของชายผู้นั้น เธอเห็นภรรยาของเขานอนร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด เธอจึงรีบไปดูอาการและบอกให้ชายคนนั้นไปต้มน้ำร้อน จากนั้นเธอก็ช่วยทำคลอดให้ภรรยาของเขาจนสำเร็จ ชายผู้นั้นและภรรยาขอบคุณเธออย่างสุดซึ้งที่ช่วยทำคลอดให้ พวกเขาจึงได้ลูกที่น่ารักอย่างปลอดภัย เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เธอก็บอกลาทั้งสองสามีภรรยาเพื่อจะรีบกลับบ้านเพราะกลัวว่าสามีกลับมาไม่เห็นตนแล้วจะเป็นห่วง ฝ่ายชายรู้ว่าเธอจะเดินทางกลับจึงอาสาจะไปส่ง แต่เธอห้ามไว้บอกให้เขาอยู่ดูภรรยาที่เพิ่งคลอดลูก ส่วนเธอนั้นสามารถเดินทางกลับบ้านเองได้
ระหว่างเดินทางกลับบ้าน เธอรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกกลัวว่าจะไม่ได้พบหน้าสามีอีกจึงรีบเร่งย่ำเท้าเดินกลับบ้าน เมื่อมาถึงกลางทางพบโจรสามคนพี่น้องที่กำลังคิดวางแผนปล้นหมู่บ้านของเธอในคืนนี้ เมื่อกลุ่มโจรสามพี่น้องได้พบเห็นความสวยของเธอก็เกิดหลงรัก อยากได้ไปเป็นภรรยาของตน ทั้งสามคนพี่น้องต่างไม่มีใครยอมใคร จึงเกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือด ที่สุดแล้วน้องชายทั้งสองคนก็ถูกพี่ชายคนโตฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม
เมื่อเธอเห็นดังนั้น จึงเกิดความกลัวขึ้นมาในจิตใจ คิดว่ายังไงเสียตนคงหนีไม่พ้นเคราะห์กรรมครั้งนี้เป็นแน่ ถ้าหากเธอตกเป็นเมียของโจรผู้นี้ ผู้คนในหมู่บ้านก็คงจะมีแต่คำครหาติฉินนินทากันอย่างสนุกปาก สร้างความเสื่อมเสียให้กับสามีผู้เป็นที่รักของเธอ และหากโจรผู้นี้รู้ว่าสามีของเธอคือใคร เขาก็คงจะตามไปฆ่าสามีของเธอเหมือนเช่นที่เขาฆ่าน้องชายทั้งสองคนเป็นแน่ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจฆ่าตัวเองตายเพื่อปกป้องสามีและเกียรติของตัวเธอเองจากการถูกบังขับขืนใจจากโจรโฉดผู้นี้
เมื่อหญิงสาวสิ้นลมหายใจไปแล้ว โจรร้ายก็ได้สำนึกผิดในการกระทำของตนและอาลัยในตัวของน้องชายที่ตนเองเป็นคนฆ่าตายเพียงเพราะหลงรูปสวยของผู้หญิงคนหนึ่ง เขานำร่างของน้องชายทั้งสองไปฝังไว้ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ส่วนร่างของหญิงสาวนั้นเขานำไปโยนทิ้งลงที่ก้นเหวลึก เพราะความสวยของเธอทำให้พวกเขาสามคนพี่น้องต้องหลงผิดและฆ่ากันตาย ดังนั้นเขาจึงไม่อยากให้ใครได้พบเห็นความสวยของเธออีก
ฝ่ายสามีของหญิงสาวเมื่อกลับมาถึงบ้านไม่พบกับภรรยาก็เกิดอาการกระวนกระวายร้อนรุ่มกลุ้มใจมาก ออกเดินทางไปถามเพื่อนบ้านแต่ละหลังว่ามีใครพบเห็นภรรยาของตนบ้างหรือเปล่า เพื่อนบ้านต่างก็พากันปฏิเสธ เขาเดินไปตามหาภรรยาทุกที่ที่คิดว่าเธอจะไป แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่พบ จนสุดปัญญาจึงกลับมารอที่บ้านของตนเพราะคิดว่าภรรยาอาจจะกลับมาแล้ว
เมื่อกลับมาถึงบ้านเขาก็พบกับความว่างเปล่าไร้เงาภรรยา ผ่านไปหลายวันมีพ่อค้าคนหนึ่งเดินทางมาจากค้าขายในหมู่บ้านอื่น พ่อค้าบอกกับชายหนุ่มว่าเขาเห็นภรรยาของชายหนุ่มเดินทางออกจากหมู่บ้านไปกับผู้ชายคนหนึ่ง บางทีเธออาจจะหนีตามผู้ชายคนนั้นไปก็ได้ แต่ชายหนุ่มไม่เชื่อคำพูดของพ่อค้าคนนั้น เขามั่นใจว่าภรรยาของเขาจะไม่ทำเช่นนั้นเด็ดขาดเพราะเขารู้จักนิสัยภรรยาของเขาดี เขาเชื่อในตัวภรรยาของเขา
ทุก ๆ เช้าชายหนุ่มจะออกมายืนรอภรรยาอยู่ที่กลางทุ่งนาของตน เขาเฝ้ารออยู่ทุกวันจนเวลาผ่านพ้นไป เป็นวันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า แต่ภรรยาของเขาก็ไม่เคยกลับมาหาเขาเสียที เพื่อนบ้านที่เคยด่าว่าเขาเป็นคนโง่ตอนนี้ต่างก็สงสารเขายิ่งนักแต่ทุกคนก็ไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้เลย การเฝ้ารอที่แสนยาวนานทำให้ร่างกายที่แข็งแรงบึกบึนของชายหนุ่มค่อย ๆซูบผอมลงเรื่อย ๆด้วยความรู้สึกตรอมใจ จนสุดท้ายชายหนุ่มก็สิ้นใจลงที่กลางทุ่งนาของตนนั่นเอง
เพื่อเป็นการตอบแทนความมีน้ำใจของเขาและภรรยาเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ชาวบ้านจึงสร้างอนุสรณ์ให้เขาเพื่อนึกถึงชายหนุ่มผู้มีความมั่นคงในความรัก ด้วยการทำหุ่นฟางยืนกางแขนสวมหมวกฟางและเสื้อที่ใช้สำหรับทำสวน แล้วนำไปปักไว้ที่กลางทุ่งนา ด้วยความหวังว่าสักวันหนึ่งหากภรรยาของเขากลับมาเธอจะได้รู้ว่าสามียังคงเฝ้ารอเธอเสมอจนนาทีสุดท้ายของชีวิต
ส่วนแขนที่กางออกนั้น เป็นสัญลักษณ์บอกให้รู้ว่าเขารอภรรยากลับมาเสมอไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง เขาก็ยังรักและยอมรับในตัวเธอ
เนื้อหาบางส่วนใน นวนิยายเมี่ยงคำ
อ่านหนังสือเมี่ยงคำ ตอน บทนำ บ้านหลังเก่ากับชีวิตใหม่ คลิ๊กที่นี่…
ถ้าคุณอยากรู้จักฉันมากขึ้น อ่านเรื่องราวของฉันได้ที่ “นวนิยาย เมี่ยงคำ”
(หนังสือพร้อมส่ง จัดส่งฟรีทั่วประเทศ)
ราคาเล่มละ 320 บาท
.
หนังสือมีทั้งหมด 22 ตอน
บทนำ บ้านเหลังเก่ากับชีวิตใหม่ |
8. หุ่นไล่กา |
16. ใบปริญญา |
1.เมี่ยงคำ |
9. เรื่องเล่าบนลายผ้า |
17. ทำงานเพื่อเงิน |
2.ท้องทุ่งสีทองกับปากท้องของชาติ |
10. โรงเรียนของหนู |
18. สู้เพื่อฝัน |
3. นิทานของแม่ |
11. ชีวิตคือการเรียนรู้ |
19. พนักงานธนาคาร |
4. เรื่องเล่าของปู่ใหญ่ |
12. ยาย |
20. วาง |
5. คนจับช้าง |
13. เข้ากรุง |
21. กลับคืนสู่รากเหง้า |
6. อาหารหล่อเลี้ยงชีวิต |
14. สาวห้างฯ |
|
7. ประเพณีนิยม |
15. สาวโรงงาน |
|
|
|
|
“มาช่วยกันอนุรักษ์และแบ่งปันเรื่องราวของความเป็นไทยร่วมกันนะคะ”
ต้องการสั่งซื้อหนังสือ
สามารถโอนเงินได้ที่ ธ.ไทยพาณิชย์
เลขที่บัญชี 648-264114-3 บัญชีออมทรัพย์
ชื่อบัญชี ถิรพร แก้วสิงทอง สาขาเลย
หรือสแกน QR Code
 |
. |
หลังจากโอนเงินแจ้งสลิปและรายละเอียดจัดส่ง มาที่

Line iD : @a-lisa.net
สั่งซื้อและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
Tel: 095-7546268 Line iD : @a-lisa.net

“เราเชื่อว่าการแบ่งปันความรู้ คือพลังที่ยิ่งใหญ่”
หนังสือที่คุณอาจสนใจ
เพื่อแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และแรงบันดาลใจ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ
มาเป็นเพื่อนกับเราทางไลน์!!!
ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารและบทความดีๆ

Line ID: @a-lisa.net