
สำหรับเจ้าของธุรกิจ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการสร้างกิจการขึ้นมาก็เพื่อหารายได้ ถ้าเป็นธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็กที่มีจำนวนห้องพักไม่กี่ห้อง รายได้หลักคงมีแค่รายได้จากค่าห้องพักเท่านั้น แต่ถ้าคุณมีเงินลงทุนมากขึ้น ต้องการสร้างธุรกิจโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นพร้อมด้วยบริการเสริมต่าง ๆ ดังนั้น จึงจำเป็นมากที่คุณต้องรู้ว่ารายได้ของธุรกิจโรงแรมนั้นมีอะไรบ้างเพื่อสะดวกในการบริหารจัดการระบบบัญชีค่ะ
คลิกอ่านต่อ ที่นี่
รับชมแบบคลิปวิดิโอ>>>
ฉันเชื่อว่าคนธรรมดาก็สามารถเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนและมีความสุขได้ ด้วยสูตร (ความรู้ + แรงบันดาลใจ + ความรัก) x ความสุข เพราะความสุข คือสิ่งที่มนุษย์ต้องการมากที่สุด มันมีพลังที่จะช่วยคุณขับเคลื่อนทุกอย่างไปสู่ความสำเร็จตามที่ใจปรารถนา และสูตรนี้คือการแบ่งปันความรู้สำหรับคนที่อยากสร้างธุรกิจโรงแรมของตนเองให้ประสบความสำเร็จตามแนวทางของ A-LISA.NET
ธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทนั้น เป็นธุรกิจบริการ โดยทั่วไปก็จะเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงทุกวันอย่างต่อเนื่อง ไม่มีวันหยุด ทำให้มีรายได้ต่าง ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา โดยทั่วไปแล้ว 1 วันทำการของกิจการโรงแรม-รีสอร์ทจะเริ่มนับจากเวลา 07.00 น. ของเช้าวันนี้ และไปสิ้นสุดเวลา 07.00 น.ของเช้าวันรุ่งขึ้น (ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงการนับเวลา ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของโรงแรม-รีสอร์ทแต่ละแห่ง)
เนื่องจากมีท่านผู้อ่านที่ติดตามเว็บไซต์ A-LISA.NET ของเราสอบถามกันเข้ามามาก เรื่องของการจัดทำบัญชีโรงแรม ในบทความนี้ ฉันนำเรื่องรายได้ของธุรกิจโรงแรม–รีสอร์ทมาแบ่งปันให้อ่านกันก่อน ก็เพื่อปูทางไปสู่การนำความรู้เรื่องของบัญชีโรงแรมมาแบ่งปันให้กับท่านผู้อ่านในบทต่อไปค่ะ
ประเภทรายได้ของธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ท ได้แก่
1.รายได้ค่าห้องพัก (Room Revenue) หมายถึง รายได้จากการขายห้องพักของโรงแรม-รีสอร์ท ถือว่าเป็นรายได้พื้นฐานของธุรกิจ เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อแขกเข้าพักและลงทะเบียนเข้าพัก โดยที่ ราคาห้องพัก นั้นจะถูกกำหนดโดยนโยบายการขายและการตลาดของโรงแรม ซึ่งราคาของห้องพักจะแตกต่างกันไปตามประเภทของห้องพัก (Room Type) เช่น ห้องมาตรฐาน (Standard Room) ห้องพิเศษ (Delux Room) ห้องสูท (Suites Room) หรือแบ่งตามสภาพวิวของห้องพัก
2. รายได้ค่าอาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverage Revenue) หมายถึง รายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่มของห้องอาหารภายในโรงแรม-รีสอร์ท ที่จัดไว้บริการลูกค้าภายในโรงแรม และลูกค้าทั่วไป โดยปกติแล้วโรงแรม-รีสอร์ทจะมีห้องอาหารไว้คอยบริการอาหารเช้าให้แก่ลูกค้าอย่างน้อย 1 ห้อง ส่วนโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอาจมีห้องอาหารประเภทอื่นไว้คอยบริการลูกค้าด้วย เช่น ห้องอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น คอฟฟี่ช็อป ล็อบบี้บาร์ และบางแห่งอาจมีห้องประชุมสัมมนา ห้องจัดเลี้ยงไว้คอยบริการด้วย
3. รายได้ค่าอาหารและเครื่องดื่มเสิร์ฟภายในห้องพัก (Room Service) หมายถึง การขายอาหารและเครื่องดื่มโดยมีพนักงานนำมาเสิร์ฟในห้องพักแขก ซึ่งฝ่ายห้องพักจะจัดเมนูรายการอาหารไว้ในห้องพัก แขกที่เข้าพักสามารถโทรสั่งรายการอาหารกับพนักงานบริการของทางโรงแรม ได้ทันที หากไม่ต้องการออกไปรับประทานอาหารด้านนอก
4. รายได้ค่าเครื่องดื่มและอาหารว่างภายในห้องพัก (Minibar) หมายถึง การจัดเครื่องดื่มประเภทน้ำแร่ น้ำอัดลม โซดา น้ำผลไม้ เบียร์ใส่ไว้ในตู้เย็นขนาดเล็กที่อยู่ในห้องพัก หรืออาจมีขนมขบเคี้ยวเตรียมไว้ให้ด้วย
5.รายได้ค่าเครื่องดื่มและอาหารที่สระว่ายน้ำ (Poolside or Swimming Pool) สำหรับโรงแรม-รีสอร์ทที่มีสระว่ายน้ำไว้บริการแขกที่เข้าพัก ดังนั้นโรงแรมก็จะจัดให้มีเคาเตอร์บาร์ไว้สำหรับบริการเครื่องดื่มต่าง ๆ หรืออาหารแบบง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก ไว้คอยบริการด้วย ซึ่งแขกที่เข้าพักอาจนำลูกหลานมาว่ายน้ำเล่นและเกิดหิวขึ้นมา ก็สามารถใช้บริการอาหารจากเคาเตอร์บาร์ข้างสระได้
6.รายได้จากค่าโทรศัพท์ (Telephone Revenue) หมายถึง รายได้จากค่าบริการทางโทรศัพท์ที่จัดไว้อำนวยความสะดวกให้กับแขกที่เข้าพัก แต่ในยุคนี้ค่าบริการทางโทรศัพท์อาจจะไม่จำเป็นแล้ว เนื่องจากการพัฒนาของเทคโนโลยีการสื่อสารและอินเตอร์เน็ต
7. รายได้จากค่าศูนย์บริการทางธุรกิจ (Business Center) หมายถึง รายได้ที่โรงแรม-รีสอร์ทจัดให้มีบริการอำนวยความสะดวกสำหรับแขกที่เป็นนักธุรกิจ เช่น งานรับพิมพ์เอกสาร งานถ่ายเอกสาร การจัดห้องประชุมย่อย บริการเครื่องคอมพิวเตอร์ บริการอินเตอร์เน็ต
8. รายได้ค่าซักรีด (Laundry Revenue) หมายถึง รายได้จากการให้บริการซักรีดเสื้อผ้าให้กับแขกที่เข้าพัก มี 2 แบบ คือแบบปกติ แขกจะส่งเสื้อให้ซักรีดปกติแล้วเสร็จสามารถรับกลับได้ภายในวันเดียว กับแบบเร่งด่วน ต้องแล้วเสร็จภายใน 4ชั่วโมง
9. รายได้ค่าบริการขนส่ง ( Transport Service Revenue) หมายถึงรายได้จากการบริการขนส่งแขกด้วยรถยนต์ เช่น บริการรับ-ส่งจากสนามบิน หรือแขกต้องการว่าจ้างไปสถานที่ต่างๆ ตามความประสงค์
10. รายได้ค่าสปา (Spa Revenue) หมายถึง รายได้จากสถานบริการสปา นวดแผนไทย นวดบำรุงผิวพรรณ
11. รายได้เบ็ดเตล็ด(Miscellaneous) หมายถึง รายได้อื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมา เช่น รายได้จากการขายของฝาก ของที่ระลึก รายได้จากเงินค่าปรับกรณีที่แขกทำส่งของภายในโรงแรมเสียหาย
12. เงินค่าบริการ(Service Charge) หมายถึง เงินที่เรียกเก็บจากแขกที่ใช้บริการโรงแรม-รีสอร์ท ในจำนวนร้อยละ 10 จากยอดเงินค่ารายได้ประเภทต่าง ๆ ทั้งหมดที่เรียกเก็บกับแขก (ยกเว้นค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มภายในห้องพัก) เงินค่าบริการร้อยละ 10 นี้ตามกฎหมายถือเป็นเงินได้ของธุรกิจ จะต้องถูกคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย ซึ่งในใบเสร็จรับเงินของโรงแรม-รีสอร์ทนั้น จะเห็นจำนวนเงินค่าบริการที่เรียกเก็บจากแขกมีค่าภาษีมูลค่าเพิ่มรวมอยู่ด้วย
รายการได้ทั่งหมดนี้ คือรายได้จากธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทที่นำไปบันทึกบัญชีในรายการช่องรายรับของกิจการค่ะ สำหรับบทความนี้เริ่มต้นที่เรื่องรับรู้รายได้ก่อนนะคะ แล้วนะเรื่องของบัญชีมาทยอยเขียนแบ่งปันให้อ่านในบทความต่อ ๆ ไปอีกค่ะ อ่านกันจนเข้าใจ อ่านกันให้ทะลุปุโปร่งไปเลย
ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จ คุณต้องทำสิ่งที่คุณรักด้วยความสุขนะคะ
“คุณสามารถเปลี่ยนตัวเองจากคนธรรมดาให้กลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ แค่เพียงมีความรู้ มีแรงบันดาลใจ และมีความสุข ฉันอยู่ที่นี่เพื่อจะแบ่งปันสิ่งเหล่านี้ให้กับคุณค่ะ”
มาร่วมเรียนรู้ไปด้วยกันกับหลักสูตร เจ้าของโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็ก ใคร ๆ ก็เป็นได้
คอร์สอบรมที่ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมได้ ภายใน 2 วัน
หนังสือที่คนอยากทำธุรกิจโรงแรมต้องอ่าน!!!
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
มาเป็นเพื่อนกับเราทางไลน์!!!
ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารและบทความดีๆ