
หลายท่านคงคิดด่าฉันในใจ ว่าใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมยังขอไม่ได้ แล้วทำไมถึงต้องเอาเรื่องของการต่อใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมมาเขียนให้อ่านในตอนนี้ด้วย
เป็นเพราะระเบียบข้อบังคับของ คสช.ที่บังคับให้โรงแรมที่พักทั่วประเทศต้องมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมให้ถูกต้อง จึงได้มีการกำหนดระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ อย่างชัดเจน เพื่อกำหนดให้โรงแรมได้มาตรฐานตามเกณฑ์ที่กำหนด มันจึงไปกระทบเข้ากับผู้ประกอบการรายเก่าที่ได้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมไปแล้ว และใบอนุญาตหมดอายุในช่วงนี้พอดีต้องดำเนินการยื่นขอต่อใบอนุญาตใหม่ ในบทความนี้ฉันจึงนำข้อมูลมาแบ่งปันสำหรับผู้อ่านที่กำลังวางแผนจะยื่นต่อใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม รวมทั้งผู้ผ่านที่กำลังยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมใหม่ได้ใช้เป็นแนวทางสำหรับการต่อใบอนุญาตในครั้งต่อไปด้วยค่ะ
คลิกอ่านต่อ ที่นี่
การต่อใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมนั้น ผู้ประกอบการโรงแรมต้องดำเนินการก่อนใบอนุญาตสิ้นสุดในปีที่ 5 โดยยื่นก่อนวันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ หรือถ้าผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมไม่ทันกำหนดเวลา และได้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตภายใน 60 วันนับแต่วันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ ต้องเสียค่าปรับเพิ่มอีกร้อยละ 20 ของค่าธรรมเนียมต่ออายุใบอนุญาต และหากพ้นกำหนด 60 วันนับแต่วันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ จะต้องดำเนินการเสมือนขออนุญาตใหม่ ดังนั้น ถ้าผู้ประกอบการโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตแล้วอย่าชะล่าใจนะคะ โปรดดูรายละเอียดให้ครบถ้วนและเข้าใจค่ะ
ค่าธรรมเนียมในการขอต่อใบอนุญาตโรงแรม
- ค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตครั้งละกึ่งหนึ่งของค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโรงแรมแต่ละประเภท มีดังนี้
- โรงแรมประเภท 1 ชำระค่าธรรมเนียมต่อใบอนุญาต คือ 5,000 บาท
- โรงแรมประเภท 2 ชำระค่าธรรมเนียมต่อใบอนุญาต คือ 10,000 บาท
- โรงแรมประเภท 3 ชำระค่าธรรมเนียมต่อใบอนุญาต คือ 15,000 บาท
- โรงแรมประเภท 4 ชำระค่าธรรมเนียมต่อใบอนุญาต คือ 20,000 บาท
2. ค่าธรรมเนียมการประกอบธุรกิจโรงแรมปีละ 80 บาทต่อห้อง
เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นขอต่อใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ขอฯ
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขอฯ
- หนังสือรับรองนิติบุคคล พร้อมบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ5, บมจ 006) ออกไม่เกิน 3 เดือน นับแต่วันยื่นคำขอต่อใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม
- คำขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม (แบบ ร.ร.1/1)
- สำเนา ใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม (แบบ ร.ร.2)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพัน และ/หรือ หนังสือแต่งตั้งผู้แทนนิติบุคคล ในกรณีกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคลไม่ได้ระบุผู้มีอำนาจลงนามให้ชัดเจน
- กรณีที่มีหลักฐานและเอกสารที่ยื่นไว้ในการขออนุญาตมีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง ผู้ขอต้องยื่นหลักฐานแสดงเอกสารที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงด้วย
- ใบรับรองการตรวจสอบอาคาร (แบบ ร.1) กรณีโรงแรมที่มีจำนวนห้องพักตั้งแต่ 80 ห้องขึ้นไป หรือโรงแรมที่เป็นอาคารสูงตั้งแต่ 23 เมตรขึ้นไป หรือโรงแรมที่เป็นอาคารขนาดใหญ่พิเศษที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป แล้วแต่กรณีตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร
ผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม จะต้องไปยื่นด้วยตนเองเพื่อพิมพ์ลายนิ้วมือตรวจสอบประวัติลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 16 (5) (6) แห่งพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 จากนั้นทางกรมการปกครองจะมีการแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ยื่นคำขอทราบภายใน 7 วันนับแต่วันที่พิจารณาแล้วเสร็จ พร้อมชำระค่าธรรมเนียมต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม
ขอบคุณสำหรับการเข้ามาติดตามอ่านบทความใน www.a-lisa.net และกำลังใจที่ส่งมาให้ด้วยนะคะ ฉันหวังว่าสิ่งที่ได้จัดทำและพยายามถ่ายทอดจากความรู้ ประสบการณ์และแรงบันดาลใจที่มีนี้จะเป็นแนวทางให้ผู้ที่มีความฝันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็กได้นำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้บ้างนะคะ และอยากฝากถึงคนที่กำลังท้อและหมดกำลังใจ เนื่องจากกำลังเจอหลาย ๆ ปัญหาเข้ามารุมเร้าและอุปสรรคต่าง ๆ นานาที่เข้ามาทดสอบ ว่าอย่ายอมแพ้นะคะ จงมีความหวังและก้าวเดินต่อไป ฮึดสู้ให้ถึงที่สุดจนลมหายใจเฮือกสุดท้าย แล้วสักวันแสงสว่างแห่งโชคชะตาก็จะปรากฏให้เราได้เห็นเองค่ะ

“เราเชื่อว่าการแบ่งปันความรู้ คือพลังที่ยิ่งใหญ่”
ขอให้ทุกท่านจงสร้างธุรกิจโรงแรมที่ดี มีคุณภาพเพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยของเรา
เพื่อแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และแรงบันดาลใจ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ
มาร่วมเรียนรู้ไปด้วยกันกับหลักสูตร เจ้าของโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็ก ใคร ๆ ก็เป็นได้
คอร์สอบรมที่ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมได้ ภายใน 2 วัน
หนังสือที่คนอยากทำธุรกิจโรงแรมต้องอ่าน!!!
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
มาเป็นเพื่อนกับเราทางไลน์!!!
ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารและบทความดีๆ
