การแบ่งปันความรู้คือพลังที่ยิ่งใหญ่ ช่วยกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ
588
.
จงอย่าทำตัวเป็นหม้อแรงดันที่รอวันระเบิด แต่จงทำตัวเหมือนแก้วชาที่มีน้ำเพียงครึ่งแก้ว เพื่อที่เราจะได้รองรับสิ่งใหม่ ๆ การอยากเป็นคนประสบความสำเร็จเราไม่จำเป็นต้องทำตัวฉลาดเสมอไปและไม่จำเป็นต้องกดดันตัวเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอยู่ตลอดเวลา
แสดงเนื้อหาเพิ่ม คลิกที่นี่
ติดตามรับฟัง Podcast บน Spotify คลิกที่นี่ ⇒
รับชมบน Youtube ช่อง A-LISA แบ่งปันความรู้
มันเป็นเรื่องยากสำหรับการตัดสินใจในแต่ละครั้งว่าฉันจะเขียนบทความแบ่งปันเรื่องอะไรดี เพื่อให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์มากที่สุด ฉันไม่อยากเขียนบทความเพียงเพราะอยากได้จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้เยอะๆ แต่พอเข้ามาอ่านเนื้อหาแล้วกลวงโบ๋ไม่มีเนื้อหาสาระอะไร แต่ฉันคิดว่าอะไรที่ฉันเชื่อว่ามันเป็นประโยชน์ต่อตัวฉันเองมันก็คงจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านด้วยเช่นกัน เพราะฉันเองก็ยังต้องเรียนรู้และหาแนวทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในธุรกิจตามที่ฝันไว้ และในแต่ละวันก็ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่สร้างปัญหาและมีอุปสรรคมากมายให้ต้องฝ่าฟัน ฉะนั้นฉันจึงต้องหาวิธีสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองและฟื้นฟูจิตใจให้เข้มแข็งเพื่อที่จะเดินตามความฝันต่อไปในวันพรุ่งนี้ให้จงได้
ทุกครั้งที่ฉันเห็นหนังสือพัฒนาตัวเองหรืองานสัมมนาที่เกี่ยวกับการบอกวิธีง่าย ๆในการพัฒนาตัวเอง เส้นทางรวยทางลัด หรือวิธีเป็นเศรษฐีจากงานง่าย ๆ อะไรพวกนี้ฉันรู้สึกแอนตี้เอามาก ๆเลย แต่มันก็เป็นหัวข้อที่คนส่วนใหญ่สนใจซะด้วยสิและช่วยเรียกแขกที่นิยมวิธีรวยทางลัดได้ทีละมาก ๆด้วย คนพวกนี้จะชอบคิดว่าเป้าหมายในการทำงานก็คือการหาเลี้ยงชีพ ดังนั้นจึงอยากทำงานให้ได้เงินมากที่สุดและใช้เวลาน้อยที่สุดเพื่อจะได้นำเวลาที่เหลือไปหาความสุขใส่ตัวหรือทำสิ่งอื่นที่สนใจมากกว่า แต่ถ้าคุณได้ศึกษาเส้นทางสู่ความสำเร็จของมหาเศรษฐีระดับโลกหรือคนเก่งระดับแนวหน้าจริง ๆ ทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ความสำเร็จไม่มีทางลัด แต่เกิดจากความมุ่งมั่น พยามยามและอดทนเท่านั้น เมื่อคุณมีความฝันและตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุความสำเร็จคุณต้องจดจ่ออยู่กับมัน คิดถึงมันทั้งยามหลับและยามตื่น คุณต้องรู้สึกถึงมันจนแรงปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จนี้ซึมเข้าไปในเส้นเลือดแม้จะกรีดเลือดออกมาก็ไม่ใช่ของเหลวข้นสีแดงแต่มันเป็นจิตวิญญาณของคุณที่อยากจะบรรลุความสำเร็จ ฟังดูอาจจะเวอร์ไปหน่อยนะ แต่คนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกเขาคิดกันแบบนี้จริง ๆค่ะ
ถ้ามีเพื่อนสองคนที่มีความสามารถเท่า ๆกัน มีความความพยายามและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมือน ๆกัน แต่เพื่อนคนหนึ่งประสบความสำเร็จส่วนอีกคนหนึ่งนั้นล้มเหลว คนภายนอกอาจมองว่าคนที่ประสบความสำเร็จนั้นได้มาเพราะโชคช่วย แต่จริง ๆแล้วมันเกิดจากความปรารถนาอันแรงกล้าที่มีไม่เท่ากันและความรู้สึกอันลึกซึ้งที่อยากประสบความสำเร็จมีขนาดแตกต่างกันต่างหาก พูดง่าย ๆก็คือ ใครมันจะอึดกว่ากัน…
จากหัวข้อของบทความ การมีชีวิตที่ดีและพบเจอกับความสำเร็จขั้นสุดยอดนั้นเริ่มต้นจากความเรียบง่าย ฉันอยากแบ่งปันเรื่องราวของร้านซูชิร้านหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น
ร้านซูชินี้มีชื่อว่า “สุกิยะบะชิ จิโร” เป็นร้านซูชิเล็ก ๆ ในย่านกินซ่าของเมืองโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ไม่มีห้องน้ำและมีที่นั่งเพียง 10 ที่เท่านั้น เจ้าของร้านซูชินี้ชื่อคุณจิโร โอโนะ ปัจจุบันอายุ 94 ปี ที่ได้รับการยอมรับนับถือว่าเป็นเทพเจ้าซูชิ มีร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยของเราบางแห่งที่ตั้งชื่อร้านว่า “ร้านซูชิจิโร่” คงมีที่มาว่าการันตีความอร่อยเหมือนคุณปู่จิโร่มาทำให้กินด้วยตัวเอง ความพิเศษของร้านนี้คือ เป็นร้านซูชิชื่อดังระดับตำนานจนได้รับการจัดอันดับจากมิชลินไกด์ให้เป็นร้านอาหารคุณภาพระดับ 3 ดาว มาตั้งแต่ปี 2551 (ค.ศ.2008) และถ้าใครต้องการจะลิ้มรสซูชิขั้นเทพนี้ต้องจองล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน โดยให้เพื่อนที่เป็นคนญี่ปุ่นพาไป ถ้าคุณไม่มีเพื่อนเป็นชาวญี่ปุ่นคุณก็ต้องให้โรงแรมที่พักเป็นคนจองให้แต่โรงแรมที่คุณพักต้องเป็นระดับ 5 ดาวเท่านั้น ทางร้านเขาถึงจะรับจอง ส่วนราคาอาหารนั้นเริ่มต้นที่ 30,000 เยน เมนูในแต่ละวันจะไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
ฉันรู้จักร้านซูชินี้จากหนังสารคดีเรื่อง Jiro Dreams of Sushi ถ้าจะให้พรรณณาเรื่องรสชาติอาหารของเชฟขั้นเทพคนนี้ ฉันคงจะทำไม่ได้เพราะยังไม่เคยไปกินแต่ที่หยิบยกเรื่องนี้มาเพราะฉันนับถือในปรัชญาการทำซูชิของคุณปู่แก คนที่อุทิศชีวิตและจิตวิญญาณเพื่อการทำซูชิ
“เมื่อเราตัดสินใจว่าจะทำอาชีพอะไร เราก็ต้องอุทิศตัวให้กับมัน เราต้องรักงานที่เราทำ เราต้องไม่บ่นงานที่เราทำ เราต้องอุทิศชีวิตเพื่อพัฒนาฝีมือ นั่นล่ะคือเคล็ดลับความสำเร็จ และเป็นกุญแจสู่การได้รับการยอมรับ” – จิโร โอโนะ
นี่เป็นคำพูดและเคล็ดลับความสำเร็จที่แสนเรียบง่ายจากคุณปู่จิโร โอโนะ ที่ฉันได้ฟังมาจากสารคดี ผู้ที่ประกาศตัวว่าจะทำซูชิจนวันสุดท้ายของชีวิต และแม้แต่คำพูดของคุณโยชิซาคุ บุตรชายคนโตของคุณปู่จิโร่ก็พูดถึงเคล็ดลับความสำเร็จที่แสนเรียบง่ายเอาไว้ในสารคดีว่า
“เราจะไม่พยายามทำตัวให้ดูวิเศษ หรือ ภูมิสูงกว่าคนอื่น เทคนิคที่เราใช้ไม่ใช่ความลับพิเศษอะไร มันก็แค่เป็นการตั้งใจทำ และ ก็ทำสิ่งเดิม ๆซ้ำกันทุกวัน มีบางคนที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ บางคนมีประสาทสัมผัสรสชาติ และกลิ่นที่ไว นั่นแหละที่เขาเรียกกันว่า พรสวรรค์ ในธุรกิจนี้ ถ้าคุณตั้งใจกับมัน คุณก็จะฝีมือดี แต่ถ้าคุณอยากเด่นในระดับโลก คุณก็ต้องมีพรสวรรค์ ที่เหลือก็อยู่ที่พรแสวง”-โยชิซาคุ
ก่อนหน้านี้ฉันก็เคยใช้ชีวิตเหมือนตัวเองเป็นหม้อแรงดัน วัน ๆมีแต่การแข่งขันและกดดันตัวเองอยู่เสมอเพื่อที่จะก้าวไปให้ถึงเป้าหมายและความฝันตามความทะเยอทะยานที่เกิดขึ้นในใจ แต่ฉันก็เชื่อเสมอว่าความทะเยอทะยานเป็นเรื่องดีเพราะมันจะช่วยขับเคลื่อนสังคมและโลกที่เราอยู่ให้ดีขึ้น การหยุดนิ่งอยู่เฉย ๆไม่ยอมทำอะไรเพราะกลัวลำบาก กลัวความผิดพลาดและกลัวความล้มเหลวเป็นเรื่องของคนที่ขี้ขลาดและเห็นแก่ตัว
ฉันพยายามอ่านหนังสือแนวจิตวิทยาหลาย ๆ เล่มเพราะอยากหาคำตอบให้ตัวเองว่า เราจะมีความทะเยอทะยานควบคู่ไปกับความสุขพร้อม ๆ กันได้อย่างไร และสำหรับคำตอบที่ฉันได้รับจากการศึกษาแนวคิดของบุคคลที่ประสบความสำเร็จระดับโลกหลาย ๆ ท่านนั้นแสนเรียบง่ายและใช้ได้ผลจริง ๆ นั่นคือ คุณต้องใช้ชีวิตให้ถูกต้อง คิดให้ถูกต้อง แล้วจะได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง
เส้นทางสู่ความสำเร็จของบุคคลที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกมันเรียบง่ายแบบนี้จริง ๆ ค่ะ
“เราเชื่อว่าการแบ่งปันความรู้ คือพลังที่ยิ่งใหญ่”
ขอให้ทุกท่านจงสร้างธุรกิจโรงแรมที่ดี มีคุณภาพเพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยของเรา
เพื่อแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และแรงบันดาลใจ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ
หนังสือที่คนอยากทำธุรกิจโรงแรมต้องอ่าน!!!
➡ สมัครด่วน (รับจำนวนจำกัด)

มาเป็นเพื่อนกับเราทางไลน์!!!
ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารและบทความดีๆ

Line ID: @a-lisa.net
การแบ่งปันความรู้คือพลังที่ยิ่งใหญ่ ช่วยกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ