215
.
สำหรับกิจการที่เริ่มต้นก่อตั้งไม่ว่าจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ ผู้ก่อตั้งทั้งหลายถือว่าเป็นนักธุรกิจและผู้ประกอบการหน้าใหม่กันทั้งสิ้น การทำธุรกิจก็เหมือนกับเรากำลังเล่นอยู่ในเกมที่มีชีวิตจริงเป็นเดิมพัน แล้วคุณอยากเล่นอยู่ในเกมที่ตัวเองเป็นผู้แพ้หรือผู้ชนะ?
ฉันได้ตัดสินใจไปแล้วว่าจะสร้างเว็บไซต์ A-LISA.NET เป็นแหล่งรวมความรู้และแบ่งปันประสบการณ์สำหรับคนที่อยากทำธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็กให้ดีที่สุด เพื่อให้คนที่สนใจและอยากทำธุรกิจนี้ได้เข้ามาอ่านและเป็นแนวทางที่สามารถนำไปปรับใช้ในธุรกิจได้ แล้วทำไมต้องเป็น ธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็ก ด้วยล่ะ ก็เพราะธุรกิจโรงแรมขนาดใหญ่นั้นเจ้าของส่วนใหญ่เป็นเศรษฐีมีเงินทุนมากมายอยู่แล้วน่ะสิ เรื่องแบบนี้เขาไม่ลงมาทำด้วยตัวเองหรอกส่วนใหญ่ก็มีเงินจ้างคนมาทำแทนอยู่แล้ว ส่วนผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อยที่เริ่มต้นก่อตั้งกิจการนั้น ลำพังแค่เงินลงทุนอย่างเดียวก็หนักพอแล้วดังนั้นอะไรที่ทำเองได้ก็ต้องทำไปก่อน
คลิกอ่านต่อ ที่นี่
ฉันกำลังวางแผนว่าจะเขียนบทความให้มีเนื้อหาสาระอะไรบ้างเพื่อให้ผู้ที่เข้ามาอ่านได้รับประโยชน์มากที่สุดและสามารถนำไปใช้ในธุรกิจได้จริง ๆ มีคำกล่าวที่ว่า “คนเก่งเรียนรู้จากประสบการณ์ตัวเอง คนฉลาดเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น และคนสำเร็จเรียนรู้ทั้งจากประสบการณ์ทั้งของตัวเองและประสบการณ์ของผู้อื่น” ฉันจึงหวังว่าเว็บไซต์นี้จะทำให้ท่านผู้อ่านได้เข้ามาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ร่วมกันเพื่อที่เราจะได้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจไปด้วยกัน
ฉันรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อคิดถึงเนื้อหาที่นำมาถ่ายทอด เพราะกลัวว่าจะผิดพลาดแต่ก็จะพยายามให้ข้อมูลที่นำเสนออกไปนั้นถูกต้องและแม่นยำที่สุด แต่ฉันก็รู้สึกดีใจที่จะได้นำความรู้ที่พอมีอยู่บ้างจากเนื้อหาในบทเรียนที่อุตส่าห์พยายามร่ำเรียนมาตั้งหลายปีออกมาถ่ายทอดให้กับผู้อ่านซึ่งมันจะช่วยให้ฉันได้ทบทวนความรู้ที่เคยเรียนมาแล้วไปในตัวอีกด้วย ฉันจึงคิดว่าเนื้อหาของบทความที่เป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากทำ ธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็ก ควรเริ่มตั้งแต่การปรับแนวคิดและทัศนคติสำหรับคนอยากเป็นผู้ประกอบการ แรงบันดาลใจในวันที่เราเจอปัญหาและอุปสรรค แผนธุรกิจ บัญชี ภาษี และกฎหมายเบื้องต้น ที่เจ้าของกิจการขนาดเล็กจำเป็นต้องรู้ ฉันจะค่อย ๆ ทยอยเขียนออกมาให้อ่าน หวังว่าท่านผู้อ่านจะคอยติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้ฉันเขียนไปจนตลอดลอดฝั่งนะคะ ถ้าเห็นว่าบทความมีประโยชน์อ่านเสร็จแล้วจะช่วยกดไลค์ กดแชร์หรือส่งสติ๊กเกอร์มาให้กำลังใจกันก็ได้ค่ะ แต่ถ้าจุดไหนที่เป็นข้อบกพร่องหรือสงสัยก็ส่งข้อความพูดคุยกันเข้ามาจะได้แลกเปลี่ยนกันนะคะ
เนื้อหาที่เขียนฉันจะพยายามถ่ายทอดออกมาให้อ่านง่ายที่สุด ใช้ภาษาเหมือนเพื่อนคุยกับเพื่อน พี่คุยกับน้อง ตามหลักการคิดที่เน้นความเรียบง่ายแต่ทรงพลัง เมื่อพูดถึง “ความเรียบง่าย” ฉันอยากแนะนำให้ทุกท่านลองพยามยามใช้ชีวิตให้มันเรียบง่ายเข้าไว้ เพื่อให้ทุกอย่างที่เราพบเจอมันดูง่ายขึ้นแล้วคุณจะพบว่าแม้ปัญหาใหญ่แค่ไหนถ้าเรามองให้มันเป็นเรื่องง่ายเราก็จะสามารถรับมือกับมันได้อย่างสบาย เรื่องความเรียบง่ายนี้ทำให้ฉันคิดถึงเหตุการณ์หนึ่งเมื่อประมาณสิบกว่าปีที่แล้ว ขณะนั้นฉันกำลังเป็นนักศึกษาปริญญาโทชั้นปีที่ 1 ตอนนั้นชีวิตฉันอยู่ในช่วงขาลงสุด ๆ ฉันตกงานเพราะลาออกจากอาชีพเซลส์ขายรถยนต์เพื่อมาเรียนต่อปริญญาโท ในตอนนั้นฉันก็อยากทำงานด้วยเรียนไปด้วยอยู่หรอกแต่ตารางเรียนและตารางงานมันทับซ้อนกันทำให้ฉันต้องเลือก สุดท้ายฉันจึงเลือกเรียนต่อและหวังไปตายเอาดาบหน้า ตอนนั้นฉันไม่มีทั้งเงินและงานทำเพื่อน ๆในกลุ่มประมาณ 4-5 คน จึงช่วยกันลงขันกันคนละ 1,000 บาท เพื่อให้ฉันมีเงินเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับเดือนนั้น
ในตอนนั้นฉันรู้จักเพื่อนอยู่คนหนึ่งเธอแนะนำให้ฉันไปทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ร้านวัสดุก่อสร้าง การทำงานที่นั่นสภาพแวดล้อมแย่มากแต่ในข้อเสียก็มีข้อดีอยู่บ้าง คือฉันได้เรียนรู้เรื่องวัสดุก่อสร้างเกือบทุกชนิด ได้รู้จักเหล็กที่ใช้ก่อสร้างแต่ละประเภท ปูนที่ใช้ในงานก่อสร้าง รวมถึงเรื่องกระเบื้องและสุขภัณฑ์ต่าง ๆ ทำให้ฉันสามารถคุยเรื่องแบบและ BOQ กับสถาปนิกในตอนเริ่มวางแผนสร้างโรงแรมในเวลาต่อมาได้ และสามารถหาซื้อวัสดุก่อสร้างรวมทั้งต่อรองค่าแรงกับผู้รับเหมาได้ในราคาที่ถูกกว่าคำนวณไว้ใน BOQ ในระหว่างที่ฉันทำงานอยู่ที่ร้านวัสดุก่อสร้างก็มีโอกาสได้เจอกับผู้บริหารภาคฯ ของปูนนกอินทรีย์ที่ออกมาเยี่ยมดีลเลอร์ในขณะนั้น และมีโอกาสพูดคุยกันใช่ช่วงสั้น ๆ แต่ฉันก็ยังจำหัวข้อสนทนาในวันนั้นได้ดี แกถามว่าฉันชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ หลังจากที่ฉันตอบไปแกก็พูดขึ้นมาว่า “พี่ดูจากลักษณะโหงวเฮ้งของเราแล้ว อนาคตเราจะไปได้ไกลกว่านี้มาก ขอให้อดทนเข้าไว้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องฝึกตัวเองให้เป็นคนเรียบง่ายที่สุด ฝึกกินให้ง่ายนอนให้ง่ายเข้าไว้ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง” ฉันยอมรับว่าคำพูดประโยคที่ได้ยินในวันนั้นไม่ได้เข้าหัวสักเท่าไหร่จึงได้แต่เงียบฟังเท่านั้น แต่มันเหมือนชิปที่ถูกฝังลงไปแล้วมันจึงดังก้องอยู่ในหัวของฉันตลอดเวลา หลังจากเวลาผ่านไป 10 ปี เมื่อฉันได้เป็นเจ้าของธุรกิจและได้ฝึกนั่งสมาธิฉันจึงได้เข้าใจความหมายของมันอย่างแท้จริง
ฉันเริ่มลืมตาอ้าปากได้เมื่อเรียนปริญญาโทอยู่ปี 2 และได้รับการติดต่อให้เข้าทำงานกับธนาคารแห่งหนึ่ง ถ้าคุณเคยศึกษาเรื่องกฎแรงดึงดูดมาบ้างคุณจะรู้ว่ามันมีอยู่จริงเพราะนี่แหละคือเป้าหมายและความฝันของฉันในตอนนั้น ฉันอยากเป็น “เจ้าหน้าที่สินเชื่อรถยนต์” แล้วในที่สุดสวรรค์ก็เป็นใจให้เด็กบ้านนอกที่ไม่มีเส้นสายอย่างฉันคว้าความฝันนั้นมาไว้ในกำมือได้จริงๆ และนับแต่นั้นมาชีวิตของฉันก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ การทำงานที่ธนาคารทำให้ฉันได้มีโอกาสรู้จักและสนิทกับนักธุรกิจหลายคน มีอยู่ครั้งหนึ่งรุ่นพี่ที่เป็นเจ้าของธุรกิจซึ่งในตอนนี้เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้วนัดฉันไปกินข้าวกลางวัน วันนั้นเขาถือหนังสือ “IDEA ON THE ROAD” ของ อ.นุวีร์ เลิศบรรณพงษ์ไปให้ฉันอ่านด้วย ฉันสะดุดตาและสะดุดใจกับข้อความในปกหลังของหนังสือ “BUSINESS IS A GAME, PLAY TO WIN” เมื่ออ่านประโยคนี้จบฉันรู้สึกถึงหัวใจตัวเองกำลังเต้นแรง ดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้า เพราะมองเห็นความท้าทายใหม่ ๆ ฉันได้ยินเสียงของหัวใจตัวเองมันส่งเสียงดังบอกว่า “ฉันได้เจอสิ่งที่ใช่แล้ว” และนั่นคือจุดเริ่มต้นของฉันที่อยากเป็น “นักธุรกิจ”
คุณเคยมีความคิดกันเล่น ๆ ไหมค่ะว่า ถ้าคุณสมบัติบางอย่างของนักกีฬาสามารถเอาชนะในเกมการแข่งขันได้ แล้วคุณสมบัตินั้นจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถเอาชนะอุปสรรคในเกมธุรกิจได้บ้างหรือเปล่า?
อยากเป็นนักธุรกิจที่เก่ง คุณต้องชนะในเกมการแข่งขัน ฉันเอาแนวคิดและเนื้อหาบางส่วนมาจากหนังสือ “กลยุทธ์สู่ความสำเร็จในธุรกิจส่วนตัว” ที่เขียนโดย ฟิลิป ฮอลแลนด์ เรียบเรียงโดย ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ มาแบ่งปันให้อ่านกันค่ะ
บทหนึ่งของหนังสือกล่าวไว้ว่า “การเป็นแชมเปี้ยนไม่ใช่ของง่ายและน้อยคนที่จะมีกำลังใจเข้มแข็งพอที่จะฝึกฝนตนเองจนแกร่งขนาดนั้น ถ้าหากคุณทราบว่าผู้ชนะจะต้องอดทนและเสียสละอะไรบ้าง คุณอาจจะไม่ต้องการเป็นแชมเปี้ยนในด้านธุรกิจเลยก็ได้”
ดังนั้นถ้าเราคิดว่าหลักและวิธีการเป็นผู้ชนะในเกมกีฬาสามารถนำมาประยุกต์กับเกมธุรกิจได้ เราก็อาจจะเป็นคนหนึ่งที่สามารถเอาชนะในเกมของธุรกิจที่กำลังเล่นอยู่ก็เป็นได้
หลักข้อที่ 1 คุณต้องรู้จักเกมให้ดี หมายถึง คุณต้องมีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจที่กำลังทำให้มากกว่าทุกคน คุณต้องอุทิศตัวเองให้กับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆอยู่ตลอดเวลา เป็นคนขยันหมั่นศึกษาเรียนรู้ทั้งจากในตำรา เรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเองในอดีตและเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่นด้วย
หลักข้อที่ 2 คุณต้องเล่มเกมเพื่อชนะเท่านั้น การมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นผู้ชนะคุณต้องทุ่มเทจนสุดกำลังเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมาย ทัศนะคติที่แน่วแน่แบบนี้จะทำให้คุณมีความมุ่งมั่นไม่หวั่นไหวกับปัญหาที่ถาโถมเข้ามา อย่าถอดใจอย่าท้อแท้เมื่อเจอกับอุปสรรคชิ้นใหญ่ ท่องเข้าไว้ว่าเกมนี้คุณต้องชนะ
หลักข้อที่ 3 คุณต้องมั่นใจในเพื่อร่วมทีมทุกคน ทีมของคุณประกอบไปด้วยลูกจ้าง คู่ค้า ซัพพลายเออร์และผู้ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ คุณต้องซื่อสัตย์ต่อพวกเขา เพราะทุกอย่างมันเริ่มต้นที่ตัวคุณถ้าคุณเป็นคนดีเป็นคนที่ซื่อสัตย์คุณก็จะได้เจอคนเช่นคุณ และการเจอแต่คนดี ๆ จะทำให้การงานทุกอย่างราบรื่น ในทางตรงกันข้ามถ้าคุณเจอคนที่ไม่ดี คนที่ทำให้ธุรกิจของคุณเสียหายก็อย่าได้ลังเลใจตัดเขาหรือเธอคนนั้นทิ้งไปไดเลย
หลักข้อที่ 4 คุณต้องยึดมั่นตามแผนที่วางไว้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ไหน ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายที่ได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ก็ขอให้คุณยึดตามมาตรฐานของตัวเอง
การทำธุรกิจก็คงไม่ต่างกับการเล่นกีฬาสักเท่าไหร่นัก เพราะคุณต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างหนัก จดจ่ออยู่กับเป้าหมาย เมื่อไปถึงเส้นชัยความสำเร็จที่ตามมาคือเงินรางวัล ชื่อเสียง เกียรติยศ จะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับสนามที่คุณเลือกเล่น แต่ไม่สำคัญหรอกว่าคุณจะชนะในเกมการแข่งขันมากี่ร้อยสนาม ถ้าหากคุณยังเอาชนะใจตัวเองไม่ได้สักครั้งเดียว
“เราเชื่อว่าการแบ่งปันความรู้ คือพลังที่ยิ่งใหญ่”
ขอให้ทุกท่านจงสร้างธุรกิจโรงแรมที่ดี มีคุณภาพเพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยของเรา
เพื่อแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และแรงบันดาลใจ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ
หนังสือที่คนอยากทำธุรกิจโรงแรมต้องอ่าน!!!
➡ สมัครด่วน (รับจำนวนจำกัด)

มาเป็นเพื่อนกับเราทางไลน์!!!
ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารและบทความดีๆ

Line ID: @a-lisa.net