การแบ่งปันความรู้คือพลังที่ยิ่งใหญ่ ช่วยกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ
262
.
ก่อนหน้าที่คุณจะโตเป็ผู้ใหญ่เต็มตัว คุณคงเคยเป็นพนักงานตัวเล็ก ๆเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่เคยมีความคิดและความฝันอยากสร้างโปรเจคเจ็ง ๆ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับองค์กรหรือที่ทำงาน แต่แล้วไม่นานไฟนั้นก็มอดดับลงด้วยหลายสาเหตุด้วยกัน จริงไหมคะ?
วันนี้ฉันมีเรื่องของจอห์นนี่มาเล่าให้ฟัง ฉันไปอ่านเจอเรื่องของจอห์นนี่ในหนังสือ “อย่าปล่อยให้ใคร ฆ่าวาฬของคุณ” ของคุณรวิศ หาญอุสาหะ เจ้าของแบรนด์ศรีจันทร์ แล้วรู้สึกประทับใจจึงอยากขออนุญาตนำเนื้อหาบางส่วนมาเล่าต่อค่ะ
แสดงเนื้อหาเพิ่ม คลิกที่นี่
ติดตามรับฟัง Podcast บน Spotify คลิกที่นี่ ⇒
รับชมบน Youtube ช่อง A-LISA แบ่งปันความรู้
จอห์นนี่เป็นเด็กหนุ่มอายุ 19 ปีซึ่งเป็นโรคดาวน์ซินโดรม ทำงานอยู่ในซุปเปอร์มาร์เกตแห่งหนึ่ง วันหนึ่งบริษัทของเขาได้จัดงานสัมมนาโดยเชิญผู้บรรยายมาพูดเรื่องการสร้างแรงบันดาลใจในที่ทำงาน มีอยู่ช่วงหนึ่งผู้บรรยายพูดว่า “ทุก ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามสามารถสร้างความแตกต่างและความทรงจำที่ดีให้กับลูกค้าได้ และสิ่งนี้แหละที่จะจูงใจให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีก เพียงแค่ใส่ความแตกต่างที่เป็นตัวเราลงไปในงาน อะไรก็ได้ที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษ”
จอห์นนี่กลับมาที่บ้านและพยายามขบคิดว่าจะทำอะไรได้บ้าง เพราะตัวเขาเองเป็นเพียงพนักงานหยิบสินค้าใส่ถุงให้ลูกค้า ลูกค้าแทบไม่เคยสังเกตเห็นเขาด้วยซ้ำ แถมยังเป็นดาวน์ซินโดรมอีกต่างหาก
หลังจากขบคิดอยู่นาน หลังเลิกงานกลับบ้านจอห์นนี่ก็ลงมือหาข้อความให้กำลังใจจากอินเตอร์เน็ต เขาปริ้นซ์ข้อความเหล่านั้นใส่ลงในกระดาษที่แบ่งเป็นช่องเล็ก ๆ ขนาดเท่าแผ่นกระดาษโพสต์อิท แล้วตัดเป็นแผ่นๆจากนั้นก็เซนต์ชื่อลงในกระดาษทุกแผ่น จอห์นนี่เอามันไปที่ทำงานด้วย โดยหลังจากที่เอาของใส่ถุงเสร็จเขาก็จะยื่นแผ่นกระดาษให้กับลูกค้าพร้อมกับบอกว่า “นี่เป็นคำคมประจำวันนี้ครับ ขอบคุณที่มาใช้บริการกับร้านเราครับ”
หนึ่งเดือนผ่านไป ช่องของจอห์นนี่มีคนต่อแถวยาวเหยียดกว่าช่องอื่นถึงสามเท่า แม้ผู้จัดการจะตะโกนสั่งให้พนักงานเปิดช่องใหม่แต่ปรากฏว่าไม่มีลูกค้าคนไหนยอมย้ายออกจากแถวที่เป็นช่องบริการของจอห์นนี่เลย ลูกค้าเหล่านั้นบอกว่า “ไม่เป็นไร ไม่ต้องเปิดช่องใหม่หรอก ที่พวกเรามาเข้าแถวจ่ายเงินในช่องนี้เพราะอยากได้คำคมประจำวันจากจอห์นนี่”
หลังจากนั้นทั้งร้านก็เกิดการเปลี่ยนแปลง พนักงานทุกคนเกิดพลังที่อยากสร้างความทรงจำที่ดีให้กับลูกค้า บางคนก็เอาดอกไม้ก้านหักมาทำเป็นเข็มกลัดติดให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆแทนที่จะทิ้งไปเฉย ๆ บางคนเอาสติ๊กเกอร์น่ารัก ๆ มาติดให้ลูกค้า สิ่งเหล่านี้ไม่มีคนสั่งทุกคนทำมาจากใจ ลูกค้าจึงสัมผัสได้และเกิดการบอกต่อ ในไม่ช้ากิจการซุปเปอร์มาร์เก็ต แห่งนี้ก็ดีขึ้นผิดหูผิดตา
นี่แหละค่ะคือพลังของการเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ แค่เพียงก้านไม้ขีดไฟ ก่อเกิดเป็นไฟลามทุ่งจนเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณมีข้ออ้างกับตัวเองว่าฉันเป็นเพียงแค่พนักงานตัวเล็กๆคนหนึ่งหรือฉันเป็นเพียงเจ้าของกิจการเล็กๆแห่งหนึ่งเท่านั้น คงจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรอก ฉันก็อยากขอให้คุณคิดถึงเรื่องของจอห์นนี่เข้าไว้
และอีกแนวคิดหนึ่งที่ฉันได้มาจากหนังสือ “ช้าให้ชนะ” ของคุณคาซุโอะ อินาโมริ เจ้าของและผู้ก่อตั้งบริษัทเคียวเซร่า ผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการบริหารของญี่ปุ่น และเป็นผู้ที่ได้รับคำเชิญจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้เข้าไปบริหารบริษัทเจแปนแอร์ไลน์ที่กำลังจะล้มละลายให้พลิกฟื้นได้ คุณคาซุโอะ อินาโมริ บอกว่า เราสามารถแบ่งวัตถุออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ วัตถุติดไฟได้ วัตถุติดไฟไม่ได้ และวัตถุที่ลุกไหม้ได้เอง วัตถุที่ติดไฟได้จะเผาไหม้เมื่อสัมผัสกับเปลวไฟ วัตถุไม่ติดไฟจะไม่เกิดการเผาไหม้ส่วนวัตถุที่จุดไฟได้เองจะเกิดการเผาไหม้ได้ด้วยตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องถูกเปลวไฟ
มนุษย์เราเองก็เช่นกัน คนบางกลุ่มจุดไฟแห่งความกระตือรือร้นได้เอง บางกลุ่มต้องได้รับแรงกระตุ้นถึงจะติดไฟ แต่บางกลุ่มกลับนิ่งเฉยไม่ว่าจะได้รับแรงกระตุ้นแค่ไหนก็ตาม คนประเภทนี้จะไม่สามารถดึงศักยภาพสูงสุดออกมาใช้ได้และจะกลายเป็นส่วนเกินขององค์กร ความสามารถและความเฉยชาของคนกลุ่มนี้จะส่งผลให้คนรอบ ๆ ตัวหมดไฟตามไปด้วย
คนที่ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่จึงเป็นคนที่จุดไฟให้กับตัวเองได้และยังสามารถส่งไฟแห่งความกระตือรือร้นให้กับคนรอบข้างได้อีกด้วย คนที่จุดไฟเองได้ จะไม่ใช่คนประเภทลงมือทำก็ต่อเมื่อมีคนบอกให้ทำหรือรอให้ใครมาสั่ง คนประเภทที่จุดไฟเองได้จะไล่ตามเป้าหมายก่อนที่จะได้รับคำสั่ง คนประเภทนี้จึงมักได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำและเป็นตัวอย่างสำหรับคนอื่น ๆ คนเหล่านี้เดินหน้าไปโดยไม่เคยหยุดนิ่งแต่ยังใช้ชีวิตและทำงานได้อย่างสร้างสรรค์อีกด้วย
แล้วคุณล่ะคะรู้ตัวเองหรือยังว่าเป็นวัตถุไวไฟประเภทไหน ชีวิตและเวลาของเราทุกคนมีค่าจงอย่าเสียเวลาทิ้งเปล่าไปวัน ๆ เราต้องทำสิ่งที่มีคุณค่าเพื่อแบ่งปันคุณค่าให้กับโลกใบนี้ พูดมันง่ายแต่ทำซิมันยาก ตัวฉันเองก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่มีความรู้สึกสับสนวุ่นวายอยู่ในจิตใจ บางครั้งก็หมดไฟอ่อนล้าไม่มีแรงแม้แต่จะเดินหน้าต่อไป แต่เมื่อฉันเลือกเส้นทางเดินชีวิตที่อยากเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จฉันจึงต้องหาวิธีที่จะเดินหน้าต่อไปให้ได้ แม้ว่าฉันจะสร้างเว็บไซต์ A-LISA.NET และเขียนบทความเพื่อแบ่งปันแรงบันดาลใจและความรู้ในการทำธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็ก ไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว ฉันก็ยังถามตัวเองทั้งในเวลาตื่นและก่อนนอนอยู่เสมอว่า ฉันควรเขียนบทความต่อไปไหม ฉันมีใจบริสุทธิ์ที่อยากแบ่งปันความรู้เรื่องการทำธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็ก จริง ๆรึเปล่า หรือฉันมีเจตนาอื่นแอบแฝงด้วยอยากขายของไหม ?
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ฉันบอกเลยว่าการเอาชนะใจตัวเองเพื่อทำในสิ่งที่ยังมองไม่เห็นผลลัพธ์หรือค่าตอบแทนมันยากมากจริง ๆ ฉันพยายามเติมเชื้อไฟและสร้างความกระตือรือร้นให้ตัวเองด้วยการฝืนใจตื่นนอนตั้งแต่ตี 5 เพื่อออกไปวิ่งให้ได้อย่างน้อยวันละ 2.5 กิโลเมตร แล้วนำความกระตือรือร้นมานั่งเขียนบทความต่อในตอนเช้า ฉันพยายามบอกตัวเองว่าบทความที่ฉันเขียนอย่างน้อยถ้ามีคนอ่านและส่งกำลังใจมาให้สักวันละ 1 คน ฉันก็จะเขียนต่อไป ฉันพยายามคิดและทำแบบนี้มาเป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้ว สิ่งที่ได้รับมาคือจิตใจฉันเริ่มสงบขึ้น มั่นคงขึ้น หวังผลลัพธ์น้อยลงและเกิดความคิดแทรกเข้ามาในจิตใจว่า ฉันอยากสร้างเว็บไซต์ A-LISA.NET ให้เป็นศูนย์รวมความรู้เพื่อแบ่งปันแรงบันดาลใจและความรู้ในการทำธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็ก ที่ใคร ๆก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แม้จะมีคนบอกว่า อย่าเอาเคล็ดลับไปเปิดเผยเดี๋ยวจะมีคู่แข่ง หรือเป็นแค่เจ้าของโรงแรมเล็ก ๆ จะไปรู้อะไรมากมาย หรือแม้แต่คนที่บอกว่าเนื้อหาที่เขียนคนไม่ค่อยนิยมอ่าน เขียนหนังสือไปก็ไม่ใช่หนังสือขายดี แต่ฉันก็จะทำมันต่อไปเพราะฉันเชื่อว่า แม้ฉันจะเป็นไม้ขีดไฟก้านเล็ก ๆ แต่ก็จะใช้ประกายไฟนี้เติมเชื้อไฟให้กับผู้อ่านที่สนใจได้เอาความรู้ที่แบ่งปันนี้ไปใช้เป็นแนวทางในการทำธุรกิจ และฉันก็หวังว่าประกายไฟนี้จะลุกโชนในใจของผู้อ่านทุกท่านแล้วช่วยกันเป็นวัตถุไวไฟอย่างดีที่ช่วยกันสร้างสรรค์สิ่ง ๆดี ธุรกิจที่ดี และเป็นรากฐานในการพัฒนาประเทศของเราต่อไป
“เราเชื่อว่าการแบ่งปันความรู้ คือพลังที่ยิ่งใหญ่”
ขอให้ทุกท่านจงสร้างธุรกิจโรงแรมที่ดี มีคุณภาพเพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยของเรา
เพื่อแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และแรงบันดาลใจ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ
หนังสือที่คนอยากทำธุรกิจโรงแรมต้องอ่าน!!!
➡ สมัครด่วน (รับจำนวนจำกัด)

มาเป็นเพื่อนกับเราทางไลน์!!!
ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารและบทความดีๆ

Line ID: @a-lisa.net
การแบ่งปันความรู้คือพลังที่ยิ่งใหญ่ ช่วยกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ