แค่เพียงคุณรู้หลักการดูฮวงจุ้ยที่ดินแบบง่าย ๆ นี้ คุณก็จะสามารถกลายร่างเป็นซินแสจำเป็นได้แล้วค่ะ และถ้าคุณก่อสร้างธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทได้ถูกต้องตามหลักของฮวงจุ้ยแล้ว ศาสตร์ของฮวงจุ้ยนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้กิจการของคุณเจริญรุ่งเรืองค่ะ
คลิกอ่านต่อ ที่นี่
โรงแรมและรีสอร์ทจัดเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทหนึ่งที่ต้องใช้ที่ดินเป็นปัจจัยหลัก การได้มาซึ่งที่ดินอาจจะเป็นโดยทางมรดกหรือซื้อที่ดินใหม่เพื่อก่อสร้างและแม้แต่เป็นสถานที่เช่าเพื่อประกอบกิจการ ล้วนต้องใช้ศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยมาช่วยดูเพื่อความเป็นสิริมงคลเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กิจการ และที่สำคัญคือสร้างความสบายใจให้กับตัวเราผู้เป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมด้วยค่ะ
คุณเชื่อเรื่องหมอดูไหมค่ะ? หรือคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องงมงาย โดยส่วนตัวฉันเองเมื่อก่อนชอบดูดวงมากถ้าหากได้ยินว่าที่ไหนมีหมอดูแม่น ๆ ไม่ว่าอยู่ไกลแค่ไหนค่าดูแพงเท่าไหร่ยังไงไม่เกี่ยงเป็นต้องดั้นด้นไปตามหาหมอดูคนนั้นให้เจอจนได้ แต่เมื่อประมาณ 4 ปีก่อนตอนเริ่มต้นเปิดโรงแรมใหม่ ๆ มีโอกาสได้คุยกับพระอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านแนะนำว่า “โยมควรเริ่มต้นไปฝึกสมาธิได้แล้วเพราะโยมร้อนมาก ถ้าโยมเข้าถึงสมาธิได้โยมก็จะได้รู้ทุกสิ่งไม่ต้องไปวิ่งหาหมอดูที่ไหน” หลังจากได้ฟังคำพูดประโยคนี้ฉันจึงเริ่มได้คิดและค่อย ๆ หันเหตัวเองเข้าสู่การฝึกสมาธิและปัจจุบันนี้ก็ลงลึกถึงขั้นต้องไปฝึกสมาธิแบบวิปัสนากรรมฐานกับสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้เกิดพลังสมาธิและปัญญาสามารถหาความรู้และข้อมูลดี ๆมาแบ่งปันให้ทุกท่านได้อ่านกันมากขึ้น แต่วันนี้เราจะไม่สนทนาธรรมกันนะคะเพราะว่าฉันไม่ถนัดเรื่องนั้น ฉันแค่เพียงจะบอกว่ามาถึงตอนนี้ถ้าใครชวนไปดูดวงฉันจะปฏิเสธทันทีถ้าคนไหนบอกเป็นหมอดูจะแนะนำโน่นนั่นนี่ให้ฉันก็จะเดินหนีเลย เพราะหลังผ่านการฝึกสมาธิมาได้ระยะหนึ่งทำให้ฉันค้นพบว่า “ทำอะไรเรารู้อยู่ที่ตัวเรา เชื่อตัวเองดีที่สุด”
กลับมาว่าถึงเรื่องการดูฮวงจุ้ยที่ดินกันต่อค่ะ ถึงแม้ฉันจะเลิกเชื่อถือในคำพูดของหมอดูแล้วแต่ฉันไม่ปฏิเสธเรื่องหลักการดูฮวงจุ้ยค่ะ เพราะฮวงจุ้ยนั้นถือเป็นศาสตร์แห่งการอยู่อาศัยร่วมกับธรรมชาติได้อย่างสอดคล้อง ฮวงจุ้ย มาจากคำว่า ลม(ฮวง)และ น้ำ(จุ้ย) ออกเสียงตามสำเนียง จีนแต้จิ๋ว เป็นศาสตร์ของชาวจีนโบราณโดยอาศัยหลักการไหลเวียนของพลังชี่ ซึ่งก็คือการไหลเวียนของทิศทางลมและน้ำนั่นแหละ ฉันศึกษาเรื่องฮวงจุ้ยก็ตอนเริ่มต้นจะทำธุรกิจโรงแรมนี่เองค่ะ เอาตรง ๆ คือไม่มีเงินจ้างซินแสเลยต้องศึกษาหาความรู้เอาเองก็พอได้มีวิชามาสร้างตรงนี้ตรงนั้นให้มันถูกหลักฮวงจุ้ยเพื่อเพิ่มความสบายใจบ้างตอนหาตำแหน่งทิศเสาเอกเสาโทและฤกษ์ลงเสาร์เอกก็หาเองโดยอาศัยความรู้ที่หาได้จากอินเตอร์เน็ตบ้างตำราบ้างแล้วนำมาประยุกต์เอา ความรู้ที่มีไม่ถึงขั้นเอาไปประกอบอาชีพซินแสได้แต่ก็อยากเอามาแบ่งปันให้ผู้อ่านได้อ่านกันเผื่อไว้เป็นแนวทางในการเลือกทำเลที่ดินให้เหมาะกับธุรกิจโรงแรมของทุกท่านค่ะ
มารู้จักกับรูปทรงที่ดินแบบต่าง ๆ กันค่ะ
- ที่ดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตามตำราบอกไว้ว่าคือสุดยอดทำเลทอง ถ้าเป็นไปได้ทีดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีสัดส่วนความกว้างต่อความยา 4/6 จะดีที่สุด เพราะลักษณะที่ดินสามารถออกแบบวางผังได้ง่าย โดยเฉพาะที่ดินสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่อยู่ทางทิศขวางตะวันหรือมีด้านแคบหันไปทางทิศตะวันออกและตะวันตก เพราะจะช่วยให้สามารถออกแบบบ้านรับลมประจำถิ่น ที่พัดมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ได้เต็มที่
- ที่ดินรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่ดี วางผังก่อสร้างง่าย สามารถจัดการพลังชี่ที่เข้ามาในตัวบ้านได้เป็นอย่างดี แต่ความยาวที่เท่ากันทุกด้านนั้น ก็ทำให้บ้านดูไม่น่าสนใจด้วยเช่นกัน
- ที่ดินรูปเส้นก๋วยเตี๋ยว มีลักษณะที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเหมือนกัน แต่ว่าอยู่ในแนวตั้งและมีลักษณะที่บีบเล็กเหมือนใบมีด ที่ดินแบบนี้จะสร้างพลังร้ายมารบกวนพลังชี่ดีที่เข้ามาในตัวบ้าน การออกแบบบ้านบนที่ดินแคบยาวและมีขนาดเล็กมากๆ อาจมีปัญหาเรื่องการวางตำแหน่งห้องภายในบ้านซึ่งจะทำได้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะที่ดินที่ด้านแคบหันไปทางทิศเหนือ-ใต้ เพราะจะทำให้การออกแบบตัวบ้านเลี่ยงแสงแดดได้ลำบาก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้บ้านร้อนจนเจ้าของบ้านอยู่แล้วรู้สึกไม่สบาย อีกทั้งในการออกแบบบ้านยังต้องคำนึงถึงระยะถอยร่นจากเขตที่ดินอย่างน้อย 2 เมตร เพื่อสามารถทำหน้าต่างบ้านได้ ทำให้พื้นที่ที่เหลือสำหรับสร้างบ้านจริงๆ เหลือน้อยมาก จนทำให้การออกแบบบ้านให้ดีนั้นทำได้ยากยิ่งขึ้น
- ที่ดินรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ที่ดินลักษณะนี้ไม่ว่าจะวางตำแหน่งบ้านแบบไหนก็จะเหลือเศษสามเหลี่ยมมุมแหลม เป็นซอกรั้วบ้าน 2 ด้านเสมอไม่สามารถใช้ประโยชน์ใช้สอยได้เต็มที่นอกจากจะจัดไว้เป็นสวนหรือระเบียงนั่งเล่น แต่ในทางจิตวิทยาจะทำให้ผู้มองเกิดความรู้สึกอึดอัด
- ที่ดินรูปทรงสามเหลี่ยม หรือที่ดินชายธง ลักษณะของ ธง ก็จะมีการเคลื่อนไหวโบกสะบัดตลอดเวลา ซึ่งถือว่าไม่ดีมีผลต่อผู้อยู่อาศัย จัดว่าวางตัวบ้านยากที่สุดเพราะทุกด้านของที่ดินจะเฉียงเว้นเสียแต่ว่าที่ที่ดินจะขนาดค่อนข้างใหญ่
- ที่ดินรูปสี่เหลี่ยมคางหมู แบ่งเป็น 2 แบบ คือ
- รูปทรงที่ดินปากกว้างก้นแคบ ตำราฮวงจุ้ยบอกว่าที่ดินรูปทรงนี้ไม่เก็บทรัพย์เงินทองรั่วไหล เจ้าของจะมีหนี้สินมากมายหามาได้เท่าไหร่ก็หมด ถ้านำมาสร้างบ้านจะทำให้มีพื้นที่หน้าบ้านติดถนนมากขึ้น มีปัญหาเรื่องฝุ่น ควันและเสียงดังรบกวนจากภายนอกได้ง่าย แต่ถ้านำมาสร้างเป็นร้านค้าจะมีข้อได้เปรียบตรงได้พื้นที่หน้าร้านเพิ่มขึ้น
- รูปทรงที่ดินปากแคบก้นกว้าง ตำราฮวงจุ้ยเรียกที่ดินแบบนี้ว่า “ถุงเงิน” เก็บทรัพย์ได้ดี ถ้ามองในแง่ของการออกแบบแล้วที่ดินปากแคบจะลดปัญหาเรื่องฝุ่น ควันและเสียงรบกวนได้ดีกว่า
- ที่ดินรูปฆ้อน ผู้อยู่อาศัยจะมีแต่เรื่องหนักใจ ครอบครัวแตกร้าว มีทุกข์เหมือนกับโดนค้อนทุบ ที่ดินลักษณะนี้หากวางลักษณะบ้านไม่ดีจะเหลือซอกมุมและจุดอับมาก เพราะการมีมุมอับทางสายตาในบ้าน จะทำให้เจ้าของบ้านเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยและเป็นกังวลได้ง่าย การวางตำแหน่งบ้านบนที่ดินรูปค้อน จึงไม่ควรวางตัวบ้านเบี่ยงไปด้านใดด้านหนึ่งมากจนเกินไป
- ที่ดินรูปวงกลม ถือว่าเป็นตำแหน่งทีดินที่ดีอีกรูปแบบหนึ่งเนื่องจากไม่มีเหลี่ยมมุมพิฆาต ด้วยลักษณะโค้งกลมทำให้มีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา กิจการการงานที่ทำอยู่จึงสะดวกราบรื่น แต่มีข้อเสียคือพลังงานชี่ที่ไหลผ่านเข้ามาในตัวบ้านจะไหลผ่านออกไปอย่างรวดเร็วเป็นเหตุให้เก็บเงินไม่ค่อยอยู่ วิธีแก้คือให้นำรูปภาพมาแขวนไว้ที่โถงทางเดินหรือบันได้เพื่อลดความเร็วของพลังชี่ที่ไหลเข้ามาในตัวบ้าน
- ที่ดินรูปครึ่งวงกลม จัดเป็นทำเลที่ดีมากอีกเช่นกัน อยู่แล้วเจริญก้าวหน้า ร่ำรวยรุ่งเรือง และยังนำโชคลาภมาสู่ครอบครัวด้วย ลักษณะที่ดินไม่มีมุมแหลมพิฆาตลักษณะโค้งมนให้ความรู้สึกอบอุ่นอ่อนโยนแต่มีด้านกว้างเปิดรับโชคลาภ
ลักษณะของที่ดินที่ดี ดูได้จาก
- เป็นที่ดินที่เจ้าของเดิมอยู่แล้วมีชีวิตที่ดีขึ้น ต้องการขายที่ดินเดิมเพื่อขยายกิจการไปอยู่ที่ใหม่
- ที่ดินที่ดีต้องอยู่ทำเลติดถนน มีการเดินทางเข้าออกสะดวก ไม่เป็นที่ดินตาบอด
- ด้านหลังของที่ดินไม่ควรมีการเคลื่อนไหว เช่นมีถนนติดกำแพง หรือเป็นแม่น้ำลำคลองไหลผ่าน
- ไม่ผ่านการใช้งานหรือทำธุรกิจที่เกี่ยวกับความเจ็บป่วยมาก่อน เช่น โรงพยาบาล โรงฆ่าสัตว์ สุสานเก่า เพราะยังมีพลังงานร้าย ๆ ของธุรกิจเดิมสะสมอยู่ในที่ดิน และตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วที่ดินกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคจากกิจกรรมต่างๆที่ทำในอดีต
- ที่ดินอยู่ในตำแหน่งที่ตั้งที่ปลอดภัยในการอยู่อาศัยและความมั่นคงในอนาคต เช่นไม่อยู่บริเวณทางสามแพร่งมีโอกาสรถวิ่งพุ่งชนได้สูง ไม่อยู่ใกล้แหล่งน้ำที่ไม่หมุนเวียน ชื้นแฉะหากถมดินไม่ดีอาจมีการทรุดตัว ริมฝั่งแม่น้ำที่ถูกน้ำกัดเซาะสุ่มเสี่ยงต่อการพังทลายของหน้าดิน
- ต้องไม่เคยใช้เป็นทางผ่านของคนในละแวกนั้นจนเป็นร่องทางเดินผ่านแปลง เปรียบเสมือนเป็นที่ดินสาธารณะเพราะมีความเชื่อว่าถ้าคนเดินผ่านได้วิญญาณต่างๆก็จะมาเดินผ่านได้เช่นกัน
- เจ้าของที่ดินเดิมต้องเต็มใจสละออกเพื่อเปลี่ยนเจ้าของ ที่ดินบางแปลงเป็นที่ที่บรรพบุรุษตั้งใจทิ้งไว้เป็นมรดกให้ลูกหลานไม่ต้องการให้เปลี่ยนมือไปเป็นของคนอื่นแต่ลูกหลานกลับนำไปขาย ถ้าเราได้ครอบครองอาจมีเรื่องวุ่นวายได้ง่าย
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะสามารถนำมาใช้เป็นหลักการดูฮวงจุ้ยที่ดินง่าย ๆ สำหรับก่อสร้างธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ท เพื่อให้ธุรกิจของคุณเจริญรุ่งเรือง ยิ่ง ๆขึ้นไปในอนาคตนะคะ หลักการดูฮวงจุ้ยง่าย ๆที่เราเองก็สามารถดูได้ไม่ต้องเสียเงินไปจ้างซินแสแพง ๆ แต่ถ้าใครมีกำลังจ่ายก็ไม่ว่ากันค่ะ
“ 2 สิ่งที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ คือความรู้และแรงบันดาลใจ โดยมีเป้าหมายคือความสุข”
ขอให้ทุกท่านจงสร้างธุรกิจโรงแรมที่ดี มีคุณภาพเพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยของเรา
หากคุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ
มาร่วมเรียนรู้ไปด้วยกันกับหลักสูตร เจ้าของโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็ก ใคร ๆ ก็เป็นได้
คอร์สอบรมที่ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมได้ ภายใน 2 วัน
หนังสือที่คนอยากทำธุรกิจโรงแรมต้องอ่าน!!!
 |
 |
 |
 |
มาเป็นเพื่อนกับเราทางไลน์!!!
ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารและบทความดีๆ
