
ฉันเริ่มต้นคิดอยากเป็นเจ้าของธุรกิจตอนอายุ 34 ปี คิดอยู่ไม่นานก็ลงมือทำเลยตามประสาวัยรุ่นใจร้อนทั้งที่ยังไม่มีประสบการณ์ บทความนี้ขอเริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องของตัวเองสักนิดนะคะ
คลิกอ่านต่อ ที่นี่
ติดตามรับฟัง Podcast บน Spotify คลิกที่นี่ ⇒
รับชมบน Youtube ช่อง A-LISA แบ่งปันความรู้
ก่อนหน้าที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจฉันเคยทำงานธนาคารในตำแหน่งเจ้าหน้าที่สินเชื่อรถยนต์มือสองหรือเรียกแบบเข้าใจง่ายๆว่าไฟแนนซ์ค่ะ ในยุคนั้นเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วงานในตำแหน่งนี้จะไม่เปิดรับผู้หญิงเข้าทำงานเพราะลักษณะงานที่ค่อนข้างจะบู๊และต้องออกภาคสนามไม่เหมาะกับความปลอดภัยของผู้หญิง ฉันจึงเป็นพนักงานหญิงรุ่นแรกๆในตำแหน่งนี้ที่ได้รับโอกาสจากท่านผู้บริหาร ด้วยนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนใจกล้าบ้าบิ่นจึงทำให้ฉันเข้ากันได้ดีกับงานนี้และค่าตอบแทนสำหรับอาชีพนี้ถ้าคุณเป็นคนขยันและทำงานดีอยู่ที่เดือนละประมาณหกหลัก ฉันทำงานด้วยความสนุกนานถึง 6 ปี พอย่างเข้าปีที่7 ก็มีอาการคล้ายกับคู่รักที่คบกันมานานจนเกิดอาถรรพ์หมายเลข 7 ฉันรู้สึกเบื่อหน่ายกับการทำงานมาก มองไปทางไหนก็เจอแต่คนเดิมๆเหตุการณ์เดิมๆซ้ำไปซ้ำมาทุกอย่างหมดความท้าทาย วันหนึ่งฉันจึงขับรถไปเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมายแล้วในสมองก็เกิดประกายความคิดปิ๊งแว๊บเข้ามาว่า “ฉันจะทำธุรกิจ”
แล้วธุรกิจอะไรล่ะ? นั่นเป็นคำถามต่อไปที่ฉันถามตัวเอง พอมีเวลาว่างฉันก็จะนั่งลิสต์ธุรกิจที่ฉันอยากทำลงในสมุดเพราะมีนิสัยชอบขีดเขียนความคิดทุกอย่างลงในสมุดอยู่แล้ว สำหรับฉันการเขียนมันช่วยจัดระเบียบทางความคิด ธุรกิจแรกในลิสต์รายการก็คือร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ ร้านดอกไม้ บลาๆๆๆ นั่งลิสต์ต่อไปอีกหลายรายการมันไม่ใช่ตัวตนของฉันสักอย่าง ฉันเริ่มต้นวิเคราะห์ตัวเองใหม่ว่าอะไรคือสิ่งที่ฉันต้องการจริงๆและคำตอบที่ได้นั้นมันก็คือ “ธุรกิจที่มีความท้าทาย” เมื่อเหตุผลคือความท้าทายจะทำกิจการเล็กๆก็ไม่ใช่เล่นใหญ่ไปเลยดีกว่าสุดท้ายเลยลงเอยด้วยการเลือกทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในตอนแรกจึงคุยกับเพื่อนจะหุ้นกันซื้อที่ดินมาทำอาคารพาณิชย์แบ่งขายหรือไม่ก็ซื้อที่ดินเปล่าแบ่งล็อคขายแต่เราไม่มีความถนัดเรื่องที่ดินบวกกับข้อจำกัดเรื่องเงินลงทุนจึงมาลงเอยที่ธุรกิจโรงแรมบูติก
สำหรับจังหวัดเลยพื้นที่ทำเลทองคืออำเภอเชียงคานแต่ฉันเลือกใช้ที่ดินในสวนหลังบ้านตั้งอยู่ในอำเภอท่าลี่เส้นทางผ่านไปด่านพรมแดนไทย-ลาวเป็นสถานที่ก่อสร้างโรงแรมเพื่อประหยัดต้นทุนค่าที่ดิน ในตอนนั้นจนกระทั่งทุกวันนี้เพื่อนๆและคนรู้จักหลายคนหาว่าฉันบ้าบิ่นเกินไปที่เอาเงินไปลงทุนในทำเลที่ยังมองไม่เห็นอนาคต
ในวันที่เริ่มต้นจากศูนย์ฉันพยายามทุกอย่างด้วยตัวเองเพื่อจะสร้างโรงแรมแห่งนี้ให้ได้ เริ่มตั้งแต่หาเงินลงทุน หาผู้รับเหมา สถาปนิก ซื้อวัสดุก่อสร้างเองเพื่อประหยัดต้นทุน ออกแบบและตกแต่งภายในเองเพื่อประหยัดงบไม่ต้องจ้างอินทีเรีย ติดต่อขอใบอนุญาตเองและศึกษาวิธีการทำตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ด้วยตัวเองทั้งหมด บอกเลยว่าหินสุดๆสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวความยากลำบากนี้ตอบโจทย์ทุกความท้าทายตามที่ตั้งใจไว้ตอนแรกจริงๆค่ะ มันเครียดไปหมดกลางคืนก็นอนไม่หลับถึงขั้นร้องไห้อยู่คนเดียวเลยก็มี สุขภาพร่างกายเริ่มทรุดโทรมน้ำหนักลดสุดท้ายกลายเป็นโรคไทรอยด์
นี่แหละค่ะคือจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจของฉัน ตอนนี้โรงแรมของฉันย่างเข้าสู่ปีที่ 5 ทุกอย่างจึงเริ่มเข้ารูปเข้ารอย ฉันมอบหมายให้แม่เป็นคนช่วยดูแลโรงแรม แม่เป็นผู้หญิงที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านมาตลอดแทบจะไม่เคยย่างกลายออกไปไหน เมื่อต้องมาดูแลกิจการโรงแรมช่วยฉันแม่จึงได้มีโอกาสพบปะผู้คนมากมายทั้งคนไทยและต่างชาติ แม่สนุกกับการเรียนรู้และพูดคุยกับคนแปลกหน้า แม่มีความสุขที่ได้ใช้ทักษะการดูแลบ้านมาดูแลห้องพักให้กับลูกค้า ทุกวันนี้อำเภอท่าลี่ก็ยังเป็นอำเภอเล็กๆที่เงียบสงบเหมือนเดิมแต่ฉันและแม่ก็รู้สึกเป็นสุขและภาคภูมิใจที่ได้สร้างสถานที่พักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับคนที่เดินทางมายังอำเภอท่าลี่ของเรา แม้รายได้จะยังไม่มากแต่เราก็นับว่า “ความสุขคือกำไร”
ตอนนี้จะเริ่มเข้าสู่ปีที่ 6 สำหรับการเป็นผู้ประกอบการของฉัน ปัญหาต่างๆไม่ได้หายไปไหน มันยังคงเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปตามกฎของอนิจจัง ความทุกข์ยากลำบากทั้งหลายที่ผ่านมานับว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า ฉันเรียนรู้มากขึ้น รู้จักปล่อยวางและใจเย็นมากขึ้น ฉันเลิกให้ความสำคัญกับตัวเงินเป็นลำดับแรกแต่หันมาให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าของสินค้าและบริการส่งมอบให้กับลูกค้าก่อนเพราะฉันเชื่อว่าถ้าใช้วิธีนี้เงินจะตามมาเอง
เพื่อตอบโจทย์เรื่อง “การสร้างคุณค่า” ฉันจึงเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ A-LISA.NET ขึ้นมาเพื่อแบ่งปันความรู้และไอเดียการทำธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็กให้กับผู้ที่สนใจ และบางบทความก็เป็นการให้แรงบันดาลใจสำหรับคนที่กำลังเหนื่อยและท้อ ฉันมีไอเดียเขียนคำคมใส่ลงในกระดาษโพสต์อิทและตั้งประโยคง่ายๆใส่แฮชแทคว่า #ผ่านมันไปให้ได้นะ เป็นเสียงกระซิบให้กำลังใจเบาๆสำหรับคนที่กำลังหมดแรงมีใจอยากฮึดสู้อีกสักครั้ง
เพื่อนบางคนก็หาว่าฉันบ้าจะเอาเรื่องการทำธุรกิจโรงแรมไปเขียนบอกคนอื่นทำไมกันเรื่องแบบนี้ต้องเก็บเป็นความลับเขาไม่บอกกันหรอก ถ้าคนรู้เยอะก็จะพากันแห่ไปสร้างโรงแรม-รีสอร์ทกันเยอะผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด มีคู่แข่งมาแย่งตลาดเต็มไปหมดแล้วจะทำยังไง ฉันก็ตอบไปว่าเราควรให้ความสำคัญกับการสร้างอัตลักษณ์และคุณค่าที่มอบให้กับลูกค้า แข่งกับตัวเองสิจะไปสนคู่แข่งทำไม เขาก็หาว่าฉันโลกสวยหัดมองโลกในความเป็นจริงหน่อย เห็นไหม?ตอนนี้ใครทำอะไรอร่อยซีพีก็แย่งไปทำขายใน 7-11 หมด สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯก็กำลังเดือดไม่รู้ผลจะออกมาเป็นยังไงทั้งโลกค้าขายฝืดไปหมด จีนนี่มันนักสร้างกลยุทธ์ตัวยงนะชอบขโมยเทคโนโลยีของคนอื่นแล้วนำมาผลิตเป็นสินค้าของตัวเองส่งขายไปทั่วโลกหั่นราคาถูกสุดๆตัดราคาชาวบ้าน…
“เราเชื่อว่าการแบ่งปันความรู้ คือพลังที่ยิ่งใหญ่”
ขอให้ทุกท่านจงสร้างธุรกิจโรงแรมที่ดี มีคุณภาพเพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยของเรา
เพื่อแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และแรงบันดาลใจ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ
หนังสือที่คนอยากทำธุรกิจโรงแรมต้องอ่าน!!!
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
➡ สมัครด่วน (รับจำนวนจำกัด)
มาเป็นเพื่อนกับเราทางไลน์!!!
ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารและบทความดีๆ
