1,150
.
บ้านนาต้นจั่น มนต์เสน่ห์ของหมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางธรรมชาติและวิถีชีวิตแบบชนบทที่เรียบง่าย เหมาะมากสำหรับผู้คนที่ต้องการหลบลี้หนีหน้าจากความวุ่นวายท่ามกลางการต่อสู้ดิ้นรนใช้ชีวิตทำงานหนักในเมืองใหญ่ เมื่อพักอยู่ที่นี่คุณจะได้ชาร์จแบตฯทั้งร่างกายและหัวใจ
ฉันอยากเขียนเล่าเรื่อง ‘บ้านนาต้นจั่น’ มาตั้งนานแล้วแต่ยังไม่ว่างสักที (เร่งจัดทำ หนังสือเจ้าของโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็ก ใคร ๆก็เป็นได้ ให้ทันจัดส่งโรงพิมพ์) วันนี้ฤกษ์ดีทางสะดวกเลยได้มีโอกาสนำเรื่องนี้มาเขียนแบ่งปันประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยวที่ไปคนเดียวเมื่อช่วงหลังปีใหม่ที่ผ่านมา มาเล่าสู่กันฟังค่ะ
คลิกอ่านต่อ ที่นี่
ช่วงเทศกาลปีใหม่นั้นเป็นวันหยุดยาวของใครหลายคน แต่สำหรับคนทำธุรกิจโรงแรมมันคือช่วงเทศกาลทำเงิน และฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ได้รับอานิสงค์จากเทศกาลปีใหม่นี้ อำเภอท่าลี่ที่ฉันอยู่เป็นอำเภอเล็กๆแถวชายแดนในจังหวัดเลยที่เงียบสงบ แต่พอย่างเข้าฤดูหนาวใกล้ถึงวันสิ้นปีต่างก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไม่ขาด บางท่านก็มาเพื่อข้ามด่านชายแดนไทย-ลาวไปยังเมืองหลวงพระบาง บางท่านก็พาครอบครัวและคนรักเดินทางมาหาประสบการณ์ที่ใหม่ๆและอีกหลายเหตุผล การมีโอกาสพบเจอผู้คนที่หลากหลายและได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันถือว่าเป็นอีกหนึ่งข้อดีของผู้ประกอบการโรงแรม แต่เมื่อวันหยุดเทศกาลปีใหม่หมดลงทุกอย่างก็กลับสู่สภาวะเงียบสงบเป็นปกติเช่นเคย เมื่อภารกิจดูแลลูกค้าเสร็จสิ้นลงฉันจึงวางแผนเพื่อหาเวลาพักผ่อนให้ตัวเอง
ฉันมีโอกาสพูดคุยกับลูกค้าต่างชาติสามีภรรยาคู่หนึ่ง ว่าCheck Outพรุ่งนี้เช้าเสร็จแล้วจะเดินทางไปที่ไหนต่อ พวกเขาบอกว่าจะไปสุโขทัยเพราะได้ยินคำเล่าลือเรื่องเมืองเก่าที่สวยงามมากเลยอยากไปดูสักครั้ง ฉันเลยค้นหาข้อมูลของจังหวัดสุโขทัยแล้วก็เจอข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แบบวิถีไทยและที่พักแบบโฮมสเตย์ของ “บ้านนาต้นจั่น” จึงเกิดความสนใจ ฉันจึงโทรไปสอบถามรายละเอียดเพื่อจองห้องพักหลังจากนั้นก็เก็บข้าวของพร้อมออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า
ฉันเดินทางไปถึงบ้านนาต้นจั่นประมาณบ่ายสามโมงตามเวลาที่นัดไว้กับพี่เจ้าของบ้าน “โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น” ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ระหว่างที่ขับรถเข้าไปในหมู่บ้านตามเส้นทางที่ Google map บอก จะต้องผ่านหมู่บ้านเล็กๆอีก 2-3 หมู่บ้าน (ถ้าจำไม่ผิดนะ) ในใจก็นึกสงสัยอยู่ว่ามาผิดทางหรือเปล่าแหล่งท่องเที่ยวอะไรจะอยู่ลึกจัง? เมื่อGoogle Mapบอกว่าถึงจุดหมายปลายทางแล้วฉันก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่หมู่บ้านนาต้นจั่นที่ฉันตั้งใจจะเดินทางมาจริงๆรึเปล่า แต่มองเห็นป้ายหมู่บ้านมันก็อ่านว่า “ หมู่บ้านนาต้นจั่น” จริงๆนะ ฉันตัดสินใจโทรหาพี่เจ้าของบ้านปรากฏว่าฉันจอดรถอยู่หน้าบ้านหลังที่จองไว้พอดี มีชื่อว่า ”บ้านจันทรา”
พี่เจ้าของบ้านแกชื่อ “พี่ตุ้ม” ออกมาต้อนรับ แกเป็นคนอัธยาศัยดีต้อนรับแบบบ้านๆเป็นกันเอง แกบอกให้ฉันพักสักครู่ช่วงสี่โมงเย็นจะมีไกค์มาพาขี่จักรยานเยี่ยมชมหมู่บ้านและไปตามจุดแลนด์มาร์คเพื่อถ่ายรูปเก็บภาพสวยๆ เนื่องจากฉันเดินทางเข้าพักคนเดียวฉันจึงได้นอนที่เรือนจันทราหลังเล็ก มีห้องน้ำส่วนตัวสะดวกสบายไม่ต้องนอนรวมในบ้านหลังใหญ่และใช้ห้องน้ำรวมเหมือนคนอื่น ส่วนชุดเครื่องนอนก็ง่ายๆเป็นฟูกปูบนพื้นและมีมุ้งกันยุงกันแมลงตอนกลางคืน
ประมาณสี่โมงครึ่งพี่ตุ้มก็มาเรียกบอกว่าไกค์มาถึงแล้วพร้อมออกไปขี่จักรยานชมหมู่บ้านหรือยัง ไกค์ที่พาฉันทัวร์เป็นเด็กนักเรียนชั้น ป.6 (เอ่อ…จำชื่อน้องไม่ได้) น้องมีความตั้งใจทำหน้าที่ไกค์มากพาไปดูตามจุดต่างๆ น้องพยายามให้ข้อมูลอย่างละเอียดที่สุดเท่าที่รู้มาและยังเป็นช่างภาพส่วนตัวให้ฉันด้วย
ฉันเขียนบทความนี้ไม่ได้เพื่อจะรีวิว “โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น” เพราะมีคนรีวิวและให้ข้อมูลไว้เยอะแล้วท่านใดที่สนใจอยากไปเที่ยว สามารถสอบถามผ่านพี่กู(Google)ได้ แต่ความตั้งใจที่นำเรื่อง “โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น” มาเล่าก็เพื่ออยากยกเป็นตัวอย่างให้กับท่านที่สนใจนำไปปรับใช้ให้เข้ากับธุรกิจโรงแรมที่พักควบคู่ไปกับการนำเสนอการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วิถีชุมชนโดยดึงจุดเด่นของแต่ละพื้นที่ออกมานำเสนอให้กับนักท่องเที่ยว ก่อนหน้านี้ฉันได้หาข้อมูลมาเขียน “บทความเรื่อง โรงแรมแบบไหนที่โดนใจวัยโจ๋ในยุคปัจจุบันที่สุด” พบว่าที่พักแบบโฮมสเตย์สไตล์ท้องถิ่นได้สัมผัสกลิ่นอายของชนบทก็เป็นประสบการณ์แบบใหม่ที่นักท่องเที่ยวอยากไปสัมผัส ฉันจึงคิดว่าโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่นเป็นตัวอย่างที่ดี การันตีด้วยรางวัลการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มากมาย
ฉันประทับใจกับประสบการณ์ที่ได้รับจาก “โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น” หลายอย่าง เริ่มต้นจากการต้อนรับอย่างอบอุ่นเหมือนเราไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัด เมนูอาหารพื้นบ้านอร่อยสุดยอดจัดเสิร์ฟมาบนขันโตกอย่างพิถีพิถันแบบภาคเหนือ จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกท่ามกลางทุ่งนากว้างใหญ่และทุ่งดอกดาวกระจายสีเหลืองอร่าม อากาศก็สดชื่นสูดเข้าได้เต็มปอดไม่ต้องระแวงเรื่องฝุ่นควันและมลพิษ แต่สิ่งที่ทำให้ฉันหลงใหลที่สุดคือเสน่ห์ความเรียบง่ายของการใช้ชีวิตแบบชนบทและจิตวิญญาณของชาวบ้านที่ร่วมมือร่วมใจกันอนุรักษ์วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเอาไว้
“บ้านนาต้นจั่น” จึงเป็นหมู่บ้านเล็กๆแต่สร้างประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ให้ผู้มาเยือน
โฮมสเตย์บ้านจันทรา
โฮมสเตย์บ้านอชิ
ปั่นจักรยานเที่ยวชมภายในหมู่บ้าน
ไกค์นำเที่ยวรุ่นจิ๋วและช่างภาพส่วนตัว
จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก
ท้องทุ่งนากว้างใหญ่และสะพานไม้ไผ่เพื่อเดินทางมาจุดชมพระอาทิตย์ตก
ทุ่งดอกดาวกระจาย ฝีมือถ่ายรูปสวยๆจากไก๊ค์จิ๋วของเรา
“ตุ๊กตาบาร์โหน” ของเล่นประดิษฐ์ภูมิปัญญาชาวบ้านของตาวงศ์
ชมการทอผ้าใต้ถุนบ้าน “ผ้าหมักโคลน”สินค้า OTOP ขึ้นชื่อจากภูมิปัญญาชาวบ้าน
อาหารมื้อเย็นสุดอลังการ
บรรยากาศมันได้! แค่กาแฟซองง่ายตอนเช้าก็สุดยอด
เมนูอาหารเช้าก็เจ๋งสุดๆ
“ข้าวเปิ๊บ” ใครไม่ได้กินถือว่ามาไม่ถึงบ้านนาต้นจั่น
“เราเชื่อว่าการแบ่งปันความรู้ คือพลังที่ยิ่งใหญ่”
ขอให้ทุกท่านจงสร้างธุรกิจโรงแรมที่ดี มีคุณภาพเพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยของเรา
เพื่อแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และแรงบันดาลใจ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ
หนังสือที่คนอยากทำธุรกิจโรงแรมต้องอ่าน!!!
➡ สมัครด่วน (รับจำนวนจำกัด)

มาเป็นเพื่อนกับเราทางไลน์!!!
ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารและบทความดีๆ

Line ID: @a-lisa.net