5 วิธีสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองและเพิ่มความกล้าเผชิญหน้ากับอุปสรรค

ติดตามรับฟัง Podcast บน Spotify คลิกที่นี่ ⇒

รับชมบน Youtube ช่อง A-LISA แบ่งปันความรู้

มันก็คือ ความกลัว ที่อยู่ในใจของคุณนั้นเอง แล้วคุณก็ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับมัน คุณจึงเกิดความวิตก ความเครียด และกลายเป็นความทุกข์เกาะกินจิตใจของคุณ เมื่อรู้ดังนี้แล้วคุณก็ต้องหาทางหยุดมัน เพราะความกลัวจะทำให้คุณเป็นคนขาดความมั่นใจในตัวเองและไม่กล้าที่เผชิญหน้ากับอุปสรรค จงฝังชิปเกี่ยวกับทัศนคติที่เป็นด้านบวกไว้กับสมองของคุณ คิดถึงสิ่งที่ทำให้คุณพอใจ คิดถึงเหตุการณ์ดีๆที่ผ่านมาในชีวิตเหตุการณ์ที่ทำให้คุณยิ้มออกมาได้ตอนที่อยู่คนเดียว  แล้วขุดรากถอนโคนความรู้สึกด้านลบออกไปจากจิตใจของคุณ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกล้มเหลวในที่ทำงาน อกหัก ขาดทุนในหุ้น ฯลฯ เพราะความความรู้สึกเหล่านี้จะเป็นหนทางไปสู่การทำลายตัวคุณเอง  ปลูกฝังความคิดที่เป็นบวกเข้าไปในจิตใจของคุณแล้วปล่อยให้เรื่องความล้มเหลวจางหายไปกับกาลเวลา หลังจากนั้นคุณจะพบว่าตัวคุณมีความมั่นใจอย่างเหลือล้นที่จะต่อสู้กับความกลัวและเอาชนะอุปสรรคต่างๆไปได้อย่างงายดายเหมือนพลิกฝ่ามือ

ต่อไปนี้เป็นแบบฝึกหัด 5 ข้อเพื่อฝึกให้คุณเป็นคนที่มั่นใจในตนเอง(แนวคิดนี้จากหนังสือThe magic of thinking ของDavid J. Schwartz)

1. นั่งแถวหน้าสุด เหตุการณ์ที่เห็นเป็นปกติในประเทศนี้แปลกดีนะ เวลาเข้าห้องเรียนหรือไปประชุมสัมมนา คนที่มาก่อนจะเลือกที่นั่งที่อยู่แถวหลังสุด ส่วนคนที่มาทีหลังก็ต้องไปนั่งแถวหน้าอย่างไม่เต็มใจ คนที่นั่งแถวหน้าจะตกเป็นเป้าสายตาได้ง่าย และมักจะถูกวิทยากรเลือกถามคำถามมากที่สุด คนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองจะเกิดความกลัวและประหม่าเมื่อคิดว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่น อย่ากลัวที่จะเป็นเป้าสายตา เพราะถ้าคุณไม่โดดเด่น จะไม่มีใครมองเห็นคุณ
2. ฝึกสบตา มีคำกล่าวว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ เพื่อแสดงความจริงใจของคุณคุณต้องกล้าสบตากับคู่สนทนา มันแสดงให้คนอื่นเห็นว่าคุณเป็นคนเชื่อมั่นในตนเอง คำพูดและการแสดงออกของคุณเป็นการกระทำที่มาจากใจจริง ตรงกันข้ามหากคุณไม่กล้าสบตากับคนอื่น มันเป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกผิดที่คุณปิดบังเอาไว้ไม่อยากให้คนอื่นรู้ คุณกลัวว่าหากสบตาแล้วคนอื่นจะอ่านใจคุณออก บางครั้งมันเป็นการแสดงออกที่บ่งบอกว่าคุณกำลังรู้สึกกลัวคนอื่น กำลังรู้สึกอ่อนแอ และมันจะทำให้คุณรู้สึกต่ำต้อยกว่าคนอื่น อย่ากลัวที่จะสบตากับคนอื่น แสดงออกให้คนอื่นเห็นผ่านทางสายตาว่าคุณเป็นคนจริงใจ คุณไม่กลัวและคุณเป็นคนมีความมั่นใจ เพื่อทำให้คนอื่นเชื่อมั่นในตัวคุณ
3. ฝึกเดินให้เร็วขึ้น การแสดงออกของร่างกายเป็นผลมาจากการแสดงออกของจิตใจ คนที่ท้อแท้ สิ้นหวัง จะแสดงออกผ่านท่าเดินแบบกระย่องกระแย่ง เดินเหมือนคนถูกกระชากวิญญาณออกจากร่าง แต่คนที่มีความมั่นใจในตัวเองจะเดินเหมือนพุ่งไปข้างหน้า เดินด้วยความเร็วอย่างกระฉับกระเฉง เพราะพวกเขารู้ว่าความสำเร็จรออยู่ตรงหน้าต้องรีบเดินไปไขว่คว้ามาให้ได้ คุณลองสำรวจท่าเดินของคุณดูนะคะว่าเป็นแบบไหน มาลองฝึกตัวเองดู ยืดไหล่ให้ตรง เงยหน้าขึ้น แล้วก้าวเดินอย่างกระฉับกระเฉง และมีความมั่นใจทุกย่างก้าวที่เดิน เพียงแค่นี้เส้นทางแห่งความสำเร็จคงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
4. ฝึกพูดแสดงความคิดเห็น ในที่ประชุมแต่ละครั้งคุณเป็นคนหนึ่งในจำนวนมนุษย์เงียบเหล่านั้นหรือเปล่า เพราะอะไรคุณถึงนิ่งเงียบและปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น คนที่อายเวลาจะพูดในที่ประชุมเพราะดูถูกตัวเองกลัวคำพูดของตัวเองคงไม่มีค่า กลัวพูดแล้วจะไม่มีคนรับฟัง หรือกลัวคนอื่นคิดว่าพูดอะไรโง่ๆ นั่งฟังเฉยๆดีกว่า นั่นแสดงว่าคุณคงลืมกฎองการประชุมไปแล้ว การประชุมมันคือการระดมสมองและความคิด ถ้าคุณไม่พูดหรือแสดงความคิดเห็น คุณก็ขาดประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกับคนอื่น อย่ากลัวที่จะตั้งคำถามหรือวิจารณ์ ไม่มีใครคิดว่าคุณโง่เง่าหรอก ถ้าคุณกล้าพูดแสดงความคิดเห็นคุณจะได้รู้ว่าใครที่มีความคิดเห็นตรงกันหรือขัดแย้งกับคุณต่างหากล่ะ
5. ยิ้มให้กว้าง การยิ้มจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคุณ ทำให้กำลังใจของคุณดีขึ้น มันทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย รวมทั้งเป็นการสลายอัตตาของคู่กรณีของคุณเวลาที่กำลังกรุ่นโกรธได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ การยิ้มแบบครึ่งๆกลางๆหรือยิ้มแบบแหยๆคงไม่ค่อยได้ผล คุณต้องยิ้มให้กว้าง ยิ้มอย่างเปิดเผย ยิ้มจนเห็นฟันนั่นล่ะยิ่งดี แล้วคุณจะเห็นว่าพลังของการยิ้มมันทำให้โลกรอบตัวคุณสดใสขึ้น

ถ้าคุณหมั่นฝึกสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง จนคุณกลายเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเอง   มันจะช่วยคุณขจัดความกลัวออกไปจากจิตใจของคุณ ขอเพียงแค่คุณมีความมั่นใจ ไม่ว่าอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจะยากเย็นแสนเข็นแค่ไหน เชื่อเถอะว่าคุณจะผ่านมันไปได้ แล้วใครๆก็จะเชื่อมั่นในตัวคุณ