3 เหตุผลดีๆ ที่คุณต้องกล้าทำชีวิตให้เป็นห้องทดลอง

แต่ถ้าคุณตอบว่า “ไม่”  คุณยังไม่เคยพบกับความรู้สึกเป็นสุขแบบที่ว่านี้เลย  มีชีวิตอยู่ไปวัน ๆอย่างไร้ความหมาย งานที่ทำก็แสนน่าเบื่อ กลับมาบ้านคนข้างกายก็มีแต่บ่นๆๆๆ โอ๊ย!! เซ็งชีวิต นั่นแสดงว่าคุณยังหาเป้าหมายในชีวิตของคุณยังไม่เจอ ชีวิตคุณมันถึงได้น่าเบื่อหน่ายซะขนาดนี้  ถ้าอย่างงั้นก็มาสร้างห้องทดลองให้กับชีวิตของคุณลองดูหน่อยไหมค่ะ?

“ห้องทดลอง” ที่คุณต้องกล้าเติมสารแห่งความท้ายทายลงไป เพื่อให้คุณได้ลองสิ่งใหม่ๆ แล้วคุณจะได้เรียนรู้เหตุผลอะไรดีๆจากมัน

1. การทดลอง ทำให้คุณได้รับประสบการณ์โดยตรง คุณจะได้เรียนรู้การกล้าเผชิญหน้ากับความจริงที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตโดยที่คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าผลลัพธ์ของมันจะเป็นอย่างไร แต่มันจะทำให้คุณได้เรียนรู้หลายรสชาติของชีวิตเลยล่ะ ทั้งความตื่นเต้น ความเครียด ความล้มเหลว ความน่าเบื่อหน่าย และความสนุกสนาน ความสุข แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าคุณก็จะไม่หวั่นไหวและสามารถรับมือกับมันได้อย่างมั่นคง เพราะคุณผ่านการทดลองมาแล้วนั่นเอง

2. ทดลองวิธีการทำงานแบบใหม่ๆ ถ้าแบบเดิมมันซ้ำซากจำเจและยังให้ผลลัพธ์แบบเดิม ๆ ก็ทดลองการทำงานด้วยวิธีการใหม่ ๆดูนะคะ จับโน่นมาใส่นี่ ลองหลาย ๆมุมไปเรื่อย ๆ อาจทำให้เราได้ผลลัพธ์ใหม่ที่ดีกว่าเก่า ดีไม่ดีอาจพบอะไรแปลก ๆใหม่ ๆเอาไปต่อยอดการทำงานของคุณจนเป็นไอเดียขั้นเทพเลยก็ได้

3. นิสัยที่ชอบการทดลอง จะทำให้คุณรู้สึกว่าชีวิตไม่หยุดนิ่งอยู่กับทึ่ มันอาจช่วยปลุกความมีประสิทธิภาพในตัวคุณที่ยังหลับใหลอยู่ให้ตื่นขึ้นมาสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ เจ๋ง ๆ  จนกลายเป็นที่สุดแห่งความคิดสร้างสรรค์ไปเลยก็ได้ ดูอย่างโทมัส อัลวา เอดิสัน สร้างหลอดไฟให้เราได้ใช้สว่างไสวแบบทุกวันนี้ เขาต้องทดลองแล้วทดลองอีกเป็นหมื่นครั้ง เขาบอกว่าเขาไม่ได้ล้มเหลวแค่เพียงค้นพบวิธีที่ไม่ได้ผลถึง 10,000 วิธี  พอทดลองได้สำเร็จก็เปลี่ยนโลกไปเลย

ลุกขึ้นมาสร้างห้องทดลองให้กับชีวิตกันเถอะค่ะ แล้วทดลองทำสิ่งใหม่ไปเรื่อยๆ อย่ากลัวที่จะผิดพลาด เพราะการผิดพลาดมันทำให้คุณได้เริ่มต้นใหม่ ไม่แน่นะคะว่าการเริ่มต้นทดลองครั้งใหม่ของคุณอาจทำให้คุณค้นพบเป้าหมายในชีวิตที่แท้จริงของคุณไปเลยก็ได้ หลังจากนั้นคุณจะรู้สึกว่าโลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ เพราะคุณอยากมีชีวิตอยู่เพื่อจะทำในสิ่งที่คุณรักให้นานที่สุด  ว่าแต่คุณจะกล้าพอไหมล่ะ?