
ราคาห้องพักมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของแขกที่เข้าพักโรงแรมเป็นอย่างมาก แล้วคุณจะตั้งราคาห้องพักยังไงเพื่อพิชิตใจลูกค้าและเอาชนะคู่แข่งขันในพื้นที่ได้
คลิกอ่านต่อ ที่นี่
รับชมแบบคลิปวิดิโอ คลิก 👉
ฉันเชื่อว่าคนธรรมดาก็สามารถเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนและมีความสุขได้ ด้วยสูตร (ความรู้ + แรงบันดาลใจ + ความรัก) x ความสุข เพราะความสุข คือสิ่งที่มนุษย์ต้องการมากที่สุด มันมีพลังที่จะช่วยคุณขับเคลื่อนทุกอย่างไปสู่ความสำเร็จตามที่ใจปรารถนา และสูตรนี้คือการแบ่งปันความรู้สำหรับคนที่อยากสร้างธุรกิจโรงแรมของตนเองให้ประสบความสำเร็จตามแนวทางของ A-LISA.NET
จากประสบการณ์ส่วนตัวของฉันที่ได้พบกับผู้เข้าอบรมหลักสูตรธุรกิจโรงแรมฯ หลายท่านและบางท่านก็เป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็กอยู่แล้ว ทำให้ทราบว่ามีหลายท่านมาก ๆ ที่ตั้งราคาห้องพักไม่ถูกต้องแล้วทำให้มีปัญหาตามมามากมายหลายอย่าง เช่น กลุ่มลูกค้าเป้าหมายผิดเพี้ยนไปเพราะกำหนดราคาห้องพักไม่ชัดเจน สูญเสียลูกค้าเก่าเพราะราคาห้องพักไม่มีมาตรฐานที่แน่นอน หรือขาดทุนจากราคาขายห้องพักเมื่อต้องทำโปรโมชั่นส่วนลดราคาเพื่อดึงดูดใจลูกค้า
คุณทราบไหมค่ะ “ราคาห้องพัก” นั้นมีความสำคัญมากเพราะมันคือสิ่งที่สื่อสารออกไปถึงลูกค้าของคุณเพื่อประกาศมาตรฐานและบริการของโรงแรมของคุณค่ะ
ราคาห้องพัก เป็นสิ่งที่ใช้สื่อสารไปถึงแขกของโรงแรมว่าโรงแรมของคุณนั้นเหมาะกับลูกค้ากลุ่มใด เป็นโรงแรมที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานระดับไหน ระดับ 3 ดาว 4 ดาว หรือว่า 5 ดาว และราคาห้องพักยังเป็นสิ่งที่สื่อสารให้ลูกค้าสามารถประเมินคุณภาพห้องพักของโรงแรมได้ว่าราคาห้องพักนั้นคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปหรือไม่ หากลูกค้าได้รับความพึงพอใจและเห็นความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายไปก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะกลับมาใช้บริการโรงแรมอีกครั้ง
เมื่อการตั้งราคาห้องพักมันสำคัญซะขนาดนี้ ในบทความนี้ฉันจึงนำการแบ่งโครงสร้างราคาห้องพักโรงแรมที่โรงแรมระดับสากลทั่วโลกส่วนใหญ่เขาใช้กันมาแบ่งปันกับคุณค่ะ เพื่อที่คุณจะได้นำไปตั้งราคาห้องพักให้ถูกต้องและนำไปเสนอขายให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในตลาดได้
โครงสร้างราคาห้องพักโรงแรม (Hotel ’s Rate Structure)
1.ราคาเต็ม (Full Rate)
เป็นราคาตามใบบอกราคาที่โรงแรมตั้งไว้สำหรับห้องพักแต่ละประเภท หรือเรียกว่าราคาขายหน้าร้าน การคิดราคาห้องพักของโรงแรม จะต้องนำราคาพื้นฐานไปรวมกับค่าบริการ (Service Charge) ปัจจุบันอยู่ที่อัตรา 10% และค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อยู่ที่อัตรา 7% จึงเป็นราคาที่ลูกค้าต้องจ่าย
ราคาเต็มนี้เป็นราคาที่โรงแรมเอาไว้ขายให้กับบุคคลทั่วไปในช่วงฤดูท่องเที่ยวและราคาเต็มยังเป็นราคาหลักที่นำมาใช้คำนวณส่วนลดให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของแต่ละส่วนแบ่งการตลาด และเป็นราคาที่นำมาคำนวณเป็นส่วนลดราคาห้องพักในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว (โรงแรมระดับสากลนิยมตั้งราคาห้องพักเป็นสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน)
2. ราคาลด (Discounted Rate)
เป็นราคาที่หักส่วนลดใหักับลูกค้าในโอกาสต่าง ๆ เช่น ลดราคาห้องพักให้กับแขกที่มาพักตรงกับวันเกิดของเขา มีส่วนลดให้กับแขกที่มาพักประจำหรือพักในระยะยาว ในฤดูท่องเที่ยวอาจลดได้ 10-30% และนอกฤดูท่องเที่ยวอาจลดได้ถึง 50% ของราคาเต็ม ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโรงแรม
3. ราคาสำหรับบริษัทต่างประเทศ (Overseas Corporate Rate)
เป็นราคาที่โรงแรมเสนอราคาให้กับบริษัทในต่างประเทศที่มีการจองห้องพักกันเป็นประจำ บางแห่งทำสัญญากันเป็นรายปี โดยปกติแล้วโรงแรมจะนิยมจัดห้องพักที่สูงกว่ามาตรฐานให้ลูกค้ากลุ่มนี้และลดราคาต่ำกว่าราคาเต็มประมาณ 10-15%
4. ราคาสำหรับบริษัทภายในประเทศ ( Local Corporate Rate)
เป็นราคาที่เสนอให้กับบริษัทภายในประเทศที่ติดต่อจองโรงแรมให้กับพนักงานหรือลูกค้าของตน โรงแรมอาจมีราคาของห้องพักแบ่งเป็นหลายระดับโดยดูจากปริมาณการจองเป็นหลัก สำหรับบริษัทภายในประเทศจะได้ส่วนลดประมาณ 10-20% ของราคาเต็ม โดยทั่วไปราคาสำหรับบริษัทในประเทศจะถูกกว่าบริษัทต่างประเทศเพราะมีแนวโน้มที่จะจองห้องพักในปริมาณสูงกว่าและอาจมีการใช้บริการด้านอื่นด้วย เช่น ห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง เป็นต้น
5. ราคาสำหรับแทรเวลเอเจนซี (Travel Agency Rate)
โดยทั่วไปแทรเวลเอเจนซีมักจะขายห้องพักจากราคาเต็มโดยได้ค่าตอบแทนจากการขายประมาณ 10% จากราคาขายห้องพักต่อคืน แต่สำหรับในประเทศไทยนั้น แทรเวลเอเจนซีนิยมดำเนินงานแบบบริษัททัวร์โดยจะเจรจากับโรงแรมเพื่อขอสัญญาในราคาลดพิเศษ บางโรงแรมจึงทำสัญญากันเป็นรายปีแต่จะให้ราคาไม่ต่ำมาก เนื่องจากปริมาณการจองมักจะต่ำกว่าบริษัททัวร์ ราคาที่โรงแรมลดให้แทรเวลเอเจนซี่อยู่ในอัตราประมาณ 20-30% ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและประวัติการจองห้องพักของแทรเวลเอเจนซีนั้นด้วย
6. ราคาสำหรับบริษัททัวร์ (Tour Operator Rate)
บริษัททัวร์มักจะขอราคาส่วนลดพิเศษกับโรงแรมสำหรับปริมาณการจองห้องพักครั้งละมากๆ เพื่อนำไปสร้างโปรแกรมทัวร์ต่าง ๆ และจำหน่ายล่วงหน้า โรงแรมมักจะเสนอราคาให้กับบริษัททัวร์ตำ่กว่าลูกค้าในตลาดอื่น ๆ เนื่องจากมีปริมาณการจองห้องพักที่สูง โดยโรงแรมอาจให้ส่วนลดต่ำสุดจากราคาเต็ม 25-35% ในฤดูท่องเที่ยวและให้ส่วนลด 35-50% ในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว
7. ราคาสำหรับกรุ๊ป (Group Rate)
เป็นราคาที่โรงแรมเสนอให้ลูกค้าสำหรับการจองห้องพักสำหรับ 15 คนขึ้นไป ราคากรุ๊ปจะลดจากราคาเต็มประมาณ 30-50% แล้วแต่ช่วงฤดูกาลและอาจมีเงื่อนไขพิเศษสำหรับหัวหน้ากรุ๊ป เช่น ได้ห้องพักฟรี 1 ห้อง หรือโรงแรมอาจเสนอราคาอาหารที่ให้ส่วนลดพิเศษด้วย
8. ราคาแพ็คเกจ (Package Rate)
การทำแพ็คเกจ คือการนำเอาผลิตภัณฑ์หลายชนิดมารวมกันเป็นสินค้าใหม่แล้วตั้งราคาใหม่เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม เช่น นำห้องพักมารวมกับอาหารและกิจกรรมอื่น ๆ ตัวอย่างของราคาแพ็คเกจ เช่น แพ็คเกจสำหรับคู่แต่งงาน แพ็คเกจการประชุมสำหรับนักธุรกิจ เป็นต้น โรงแรมจะนิยมขายแพ็คเกจในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวและตั้งราคาให้ดึงดูดใจลูกค้า
9. ราคาสำหรับลูกเรือ (Crew Rate)
เป็นราคาห้องพักที่เสนอให้กับสายการบินและลูกเรือที่เดินทางมาพักหลังปฏิบัติหน้าที่บนเครื่องบิน ส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรมที่ต้งอยู่ใกล้กับสนามบิน ราคาอาจลดได้มากถึง 40-50% ของราคาเต็ม และเพื่อดึงดูดใจลูกค้าให้ทำสัญญาโรงแรมอาจมีข้อเสนออื่นเพิ่ม เช่น มีรถรับส่งที่สนามบิน มีบริการซัก-รีดเสื้อผ้าฟรี ไม่เกิน 2 ชุด เป็นต้น
10. ราคาพิเศษษสำหรับผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวและพนักงาน (Industry Discounted Rate)
เป็นราคาห้องพักที่เสนอให้กับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและพนักงานที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนหรือทำกิจธุระ โดยทั่วไปนิยมลดได้ถึง 50% จากราคาเต็มในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว
11. ราคาสำหรับกรณีพิเศษอื่น ๆ
เช่น
- ราคาสมนาคุณ คือราคาที่โรงแรมเสนอห้องพักให้กับลูกค้าพิเศษโดยไม่คิดราคา เช่น นักข่าวที่มาทำข่าวเกี่ยวกับโรงแรม หรือ Influencer ซึ่งเป็นกลุ่มคนผู้มีอิทธิพลต่อความคิดและการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมายบนโลกออนไลน์มาเข้าพักโรงแรมเพื่อรีวิว เป็นต้น
- ราคาสำหรับขายเฉพาะเวลากลางวัน (ไม่พักค้างคืน) เป็นราคาห้องพักเฉพาะตอนกลางวัน เช่น กรณีลูกค้าบางรายมีความจำเป็นต้องอยู่ต่อจนถึงเย็น จึงขอเช่าห้องจากเวลาเที่ยงถึงเย็น หรือกรณีที่ลูกค้าแวะพักที่โรงแรมเพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางอื่น แต่ต้องการพักเพื่อรับประทานอาหารและใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรม ราคาสำหรับขายเฉพาะกลางวันนี้ นิยมคิด 50% ของราคาเต็ม
ราคาห้องพักโรงแรมอาจมีหลายระดับราคา ขึ้นอยู่กับลักษณะ การตกแต่ง ขนาดของห้องพัก ที่ตั้ง และเครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ห้องพักในระดับเดียวกันสามารถมีราคาขายที่แตกต่างกันได้ ขึ้นอยู่กับนโยบายด้านราคาและส่วนแบ่งการตลาดของแต่ละโรงแรม
ฉันหวังว่าโครงสร้างราคาห้องพักโรงแรมที่นำมาแบ่งปันในบทความนี้ จะช่วยเป็นแนวทางให้คุณที่กำลังเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมสามารถนำไปกำหนดราคาขายห้องพักและส่วนแบ่งการตลาดได้ตรงกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายโรงแรมของคุณนะคะ
และนี่เป็นความรู้กับแรงบันดาลใจที่ฉันนำมาแบ่งปันให้กับคุณค่ะ ส่วนความรักและความสุขคุณต้องเติมใส่ลงไปเอง
“ 2 สิ่งที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ คือความรู้และแรงบันดาลใจ โดยมีเป้าหมายคือความสุข”
ขอให้ทุกท่านจงสร้างธุรกิจโรงแรมที่ดี มีคุณภาพเพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยของเรา
หากคุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ
มาร่วมเรียนรู้ไปด้วยกันกับหลักสูตร เจ้าของโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็ก ใคร ๆ ก็เป็นได้
คอร์สอบรมที่ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมได้ ภายใน 2 วัน
หนังสือที่คนอยากทำธุรกิจโรงแรมต้องอ่าน!!!
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
มาเป็นเพื่อนกับเราทางไลน์!!!
ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารและบทความดีๆ