
สูตรแห่งความสำเร็จบอกว่า “ ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยไม่ผ่านความเจ็บปวด” แล้วคุณคิดว่าจะเป็นไปได้ไหมที่เราจะมีความสุขไปพร้อมกับความสำเร็จโดยไม่ต้องเจ็บปวด และนี่คือวิธีใช้ความสุขสร้างธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กที่ฉันอยากจะบอกกับคุณโดยเฉพาะค่ะ
คลิกอ่านต่อ ที่นี่
รับชมผ่านคลิปวิดิโอบน YOUTUBE ได้ที่นี่ค่ะ
นับตั้งแต่วันที่ฉันเริ่มต้นสร้างธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กของตัวเองจนถึงปัจจุบัน ระยะเวลาก็ผ่านมาได้ประมาณ 8 ปีแล้ว ในตอนแรกที่เริ่มต้นสร้างธุรกิจโรงแรมแห่งนี้ฉันไม่มีความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจโรงแรมอะไรทั้งนั้น มีแต่ความฝันที่อยากสร้างมันให้เป็นจริงขึ้นมาให้ได้ และมีความเชื่ออย่างสุดหัวใจว่าเมื่อสร้างโรงแรมเสร็จแล้วเดี๋ยวก็จะมีคนมาพักเองนั่นแหละ
หลังจากการก่อสร้างโรงแรมแล้วเสร็จและเปิดให้บริการผ่านไป 3 เดือน ฉันจึงรู้ว่าความคิดของตัวเองนั้นผิดถนัดและไร้เดียงสาเกินกว่าจะทำธุรกิจโรงแรมให้ประสบความสำเร็จได้ เพราะการทำธุรกิจโรงแรมนั้นมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมายที่ต้องเรียนรู้ นอกจากนี้คุณจะต้องฝึกฝนความอดทนอย่างหนักเมื่อต้องผจญกับความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน แต่เรื่องที่แย่ที่สุดคืออัตราการเข้าพักของลูกค้าในโรงแรมนั้นน้อยกว่าเป้าหมายที่ฉันคาดการณ์เอาไว้ รายรับที่เข้ามาขาดดุลและธุรกิจขาดสภาพคล่องจนไม่มีเงินเพียงพอหมุนเวียนในกิจการทำให้ร้านอาหารในโรงแรมต้องปิดตัวลงภายใน 3 เดือน ตอนนั้นฉันเสียใจมากที่ต้องปล่อยลอยแพพนักงานในแผนกร้านอาหาร และที่หนักสุดคือไม่มีเงินเพียงพอชำระหนี้ธนาคารที่กู้ยืมมาก่อสร้าง สิ่งเหล่านี้สร้างความเครียดให้กับฉันเป็นอย่างมาก ฉันคิดหนักจนผมร่วงน้ำหนักลดไปหลายกิโลจนมีคนทักว่าผอมจนขาเหมือนตะเกียบเดินได้ และสิ่งที่ฉันทำหลังจากนั้นคือวิ่งวุ่นหาเงินทุกวิถีทางเพื่อนำมาพยุงธุรกิจโรงแรมแห่งนี้ให้อยู่รอด
ในช่วงเวลานั้น ฉันคิดว่าตัวเองคือคนที่แบกความทุกข์ไว้หนักที่สุดในโลกแล้ว สิ่งที่ฉันใช้ยึดเหนี่ยวเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจคือหมอดูและการไปวัดเพื่อปฏิบัติธรรมเพราะเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้ดวงตาของฉันมองหาแสงสว่างที่ตรงปากทางออกได้ นอกจากนี้ฉันยังกว้านซื้อหนังสือแนวบริหารธุรกิจและจิตวิทยามาอีกมากมายนับสิบเล่มแล้วตั้งหน้าตั้งตาอ่านอย่างมีความหวังว่าเนื้อหาในหนังสือพวกนี้จะมีคำตอบให้กับความทุกข์ยากที่ฉันกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้
สูตรแห่งความสำเร็จที่ฉันมักจะอ่านเจอในหนังสือแนวจิตวิทยาสรุปความได้ว่า “ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยไม่ผ่านความเจ็บปวด” แนวคิดนี้เริ่มซึมลึกเข้าไปในจิตใจของฉัน และทำให้ได้เรียนรู้ว่าความสุขที่แท้จริงนั้นไม่ใช่ชีวิตที่สวยงามเหมือนทางเดินที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เป็นชีวิตที่ต้องมีความขุ่นข้องหมองใจ ความคับแค้นใจ ความยากลำบากและความทุกข์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยไม่มากก็น้อย และการเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้จะทำให้คุณค้นพบความหมายที่แท้จริงของการมีความสุขในชีวิต และคุณจะไม่มองความสุขเป็นเหมือนของตายที่ได้มาอย่างง่ายดาย แต่ความสุขจะย้ำเตือนให้คุณเห็นคุณค่าของประสบการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา
เมื่อฉันค้นหาความหมายของความสุขเจอ ฉันจึงเริ่มต้นมองหาความสุขจากสิ่งเล็ก ๆ ใกล้ตัว เช่น มองเห็นดอกแพงพวยสีชมพูสดในแปลงดอกไม้สวยงามเป็นพิเศษ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันเดินผ่านแปลงของมันบ่อยจนนับจำนวนรอบไม่ได้และไม่เคยสนใจที่จะมองดูมันเลยสักนิด แต่วันนี้ดอกแพงพวยสีชมพูสดเบ่งบานท้าทายแสงแดดที่ร้อนแรงจนทำให้ฉันต้องหยุดสายตาเพื่อชื่นชมความงามของมัน การหยุดพิจารณาความสวยของดอกแพงพวยแบบที่ไม่เคยทำมาก่อนทำให้ฉันฉุกคิดได้ว่าโดยปกติที่แปลงดอกไม้ของโรงแรมจะต้องปลูกดอกไม้ตามฤดูกาล เมื่อต้นดอกไม้เหี่ยวเฉาแล้วก็จะต้องถอนออกและปลูกดอกไม้ชนิดใหม่ที่ทนต่ออากาศในฤดูนั้น แต่แปลงที่ปลูกดอกแพงพวยนั้นกลับยังเบ่งบานในทุกฤดูกาล ไม่ว่าฝนจะตก พายุเข้า แดดแรงหรือแม้แต่ดินที่แห้งแล้ง แต่ดอกแพงพวยเล็ก ๆ พวกนี้ก็ยังคงทนและเบ่งบานให้ความสดชื่นกับผู้พบเห็นในทุกฤดู แล้วถ้าหัวใจคนทนร้อน ทนแดด ทนฝนได้ดีเหมือนกับดอกแพงพวย ฉันเชื่อว่าคน ๆ นั้นก็จะเป็นคนที่มีหัวใจแข็งแกร่งและงดงามเหมือนดอกแพงพวยตอนกำลังผลิบานค่ะ ฉันยังได้เรียนรู้อีกว่าการที่ชีวิตต้องเจอกับปัญหาและความทุกข์นั้นมันคือของขวัญที่ดีที่สุดที่จักรวาลหรือพระเจ้ามอบให้กับมนุษย์โลกอย่างเรา เพื่อให้เราได้มีโอกาสเรียนรู้และเติบโตมากยิ่งขึ้น
ฉันจึงเริ่มขอบคุณความทุกข์ยากและปัญหาต่าง ๆ มากมายที่กระหน่ำถาโถมเข้ามาในชีวิต และมอบความสุขให้ตัวเองด้วยการใช้เวลาอยู่กับตัวเองเงียบ ๆ เพื่อคิดใตร่ตรองหาวิธีแก้ปัญหาให้ถูกจุดมากกว่าที่จะวิ่งวุ่นไปตรงนั้นทีตรงนี้ทีเพื่อหาทางออกแต่กลับพบแต่ทางตัน ฉันตั้งคำถามกับตัวเองว่า ธุรกิจโรงแรมในแบบที่ฉันอยากทำจริง ๆ นั้นเป็นแบบไหน? เมื่อจิตใจสงบคำตอบจึงผุดขึ้นในใจราวกับดอกเห็ดที่ได้รับฝนแรกของปี และคำตอบที่ได้คือ ฉันอยากสร้างโรงแรมเพื่อส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าที่เข้ามาพักกับเรา ฉันอยากสร้างสถานที่ทำงานที่พนักงานทำงานอย่างมีความสุข ฉันอยากสร้างสินค้ากับบริการที่ส่งมอบความสุขให้กับคนทั้งโลก และสิ่งที่ฉันอยากทำมากที่สุด ทำด้วยความภาคภูมิใจและมีความสุขแบบสุด ๆ คือ ฉันอยากนำความรู้และประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาแบ่งปันให้กับคนที่สนใจอยากทำธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กและสามารถนำไปใช้สร้างธุรกิจของตนเองได้จริงๆ เราจะได้ช่วยกันสร้างธุรกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพและเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยของเรา
ฉันยังบอกให้ตัวเองค้นหาความสุขในงานที่กำลังทำอยู่ เพราะความสุขเกิดจากความรักในงานที่ทำและเป็นแรงผลักดันให้ฉันทำงานอย่างสนุกและอยากอุทิศตนอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม ฉันเริ่มคิดหาวิธีใช้ความสุขสร้างธุรกิจโรงแรมชนาดเล็กของตัวเองเสียใหม่โดยใช้แนวคิดแบบริเน็นที่อ่านเจอใน หนังสือ ริเน็น สร้างธุรกิจ 100 ปีด้วยหลักคิดแบบญี่ปุ่น เขียนโดย ดร.กฤตินี พงษ์ธนเลิศ
ริเน็น เป็นปรัชญาทางธุรกิจที่ได้รับแนวคิดมากจากประเทศญี่ปุ่น เป็นสิ่งที่ผู้บริหารเชื่อมั่น ยึดถือ และถ่ายทอดให้คนในองค์กรจากรุ่นสู่รุ่น และนี่คือวิธีที่ฉันใช้ความสุขเพื่อสร้างธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กของตัวเองให้สำเร็จและฉันกำลังจะแบ่งปันใหักับคุณต่อจากนี้ค่ะ
วิธีที่ 1 ตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าคุณทำธุรกิจเพื่ออะไร?
คำตอบของฉันสำหรับคำถามนี้คือ ฉันอยากสร้างธุรกิจโรงแรมแห่งนี้ให้เป็นสถานที่ส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าทุกคนที่มาพักกับเรา เมื่อคิดคำตอบได้ดังนี้ ฉันก็ผุดไอเดียเป็นสโลแกนของโรงแรมขึ้นมาว่า “We‘re here! to give you happiness” แปลเป็นไทยว่า “เราอยู่ที่นี่! เพื่อส่งมอบความสุขให้กับคุณ” เมื่อได้สโลแกนแล้วโรงแรมก็เหมือนถูกผูกมัดด้วยพันธกิจนี้ ฉันจึงคิดหาวิธีที่จะส่งมอบความสุขให้กับลูกค้า ฉันเริ่มต้นด้วยการถ่ายทอดแนวคิดนี้ให้กับพนักงานเพื่อให้พนักงานเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในพันธกิจและร่วมกันสร้างคุณค่าไปด้วยกัน เมื่อพนักงานเห็นคุณค่าและความหมายในงานที่ตัวเองทำจึงทำให้เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจในงานที่ทำและตั้งใจทำงานมากขึ้น ผลลัพธ์นี้เห็นได้ชัดจากฟีดแบ็คของลูกค้าที่ให้คำชื่นชมโดยตลอดว่า ชอบโรงแรมของเรามาก เป็นโรงแรมขนาดเล็กแต่ให้ความรู้สึกอบอุ่น สะดวกสบายและสะอาด เคยมีลูกค้าประจำท่านหนึ่งกล่าวว่า ไม่เคยพักโรงแรมที่ไหนแล้วหลับสนิทเหมือนที่นี่ ถ้าคุณได้ยินลูกค้าพูดแบบนี้จะยิ้มจนแก้มปริไหมคะ? และในตอนท้ายที่สุดก็มักจะได้รับคำยืนยันจากลูกค้าก่อน Check out เสมอว่า หากมีโอกาสมาที่นี่อีกครั้งจะต้องกลับมาพักที่โรงแรมของเราอีกแน่นอน และจะแนะนำเพื่อน ๆ คนรู้จักให้มาพักที่โรงแรมของเราอีกด้วย การสร้างฐานลูกค้าด้วยการบอกต่อนับว่าเป็นกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่งที่สุดค่ะ แม้ในตอนนี้การระบาดของโควิด19 จะยังไม่จางหายไปแต่โรงแรมของเรากลับมีลูกค้าแวะมาเวียนมาใช้บริการอยู่เสมอโดยไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และนี้ก็เป็นผลลัพธ์ของการใช้ความสุขสร้างธุรกิจโรงแรมของฉันค่ะ
วิธีที่ 2 สำนึกรักบ้านเกิด
ถ้าคุณได้ติดตามผลงานของฉันตั้งแต่ต้น คุณก็คงจะทราบแล้วว่าธุรกิจโรงแรมของฉันตั้งอยู่ที่ อ.ท่าลี่ จ.เลย เป็นอำเภอเล็ก ๆ ที่อยู่ติดกับแม่น้ำเหืองกั้นเขตแดนไทย-ลาว เมื่อเริ่มต้นสร้างธุรกิจโรงแรมนั้นฉันมักได้รับคำติติงจากคนรอบข้างทั้งหลายว่า มาสร้างโรงแรมอยู่อำเภอเล็กๆ แบบนี้จะมีลูกค้าที่ไหนมาพัก ทำไมไม่ไปสร้างที่อำเภอเชียงคาน เพราะเป็นอำเภอที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเลยมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวตลอดปี ฉันก็ได้แต่พร่ำตอบคำถามของนักติติงทั้งหลายซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ฉันตั้งใจอยากสร้างธุรกิจโรงแรมที่อำเภอท่าลี่จริง ๆ เพราะที่นี่เป็นบ้านเกิดของฉัน ฉันอยากทำอะไรดี ๆ ให้กับอำเภอแห่งนี้ อยากให้คนที่เดินทางมาที่อำเภอท่าลี่เลิกบ่นสักทีว่า เป็นอำเภอเล็ก ๆ ที่หาที่พักดี ๆ ไม่ได้เลย และที่สำคัญที่สุดคือฉันอยากสร้างธุรกิจให้พ่อกับแม่ภูมิใจ อยากยกระดับครอบครัวของเราจากเกษตรกรขึ้นมาเป็นนักธุรกิจและมีพื้นที่ในสังคมให้เรายืนบ้าง ทุกวันนี้ฉันขอยืดอกยอมรับด้วยความภาคภูมิใจว่า ฉันดีใจที่ตัดสินใจเลือกสร้างโรงแรมที่อำเภอท่าลี่จริงๆ เพราะโรงแรมของเราได้รับการยอมรับว่าเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในอำเภอท่าลี่ จ.เลย มีลูกค้าหลายท่านที่เดินทางไปเที่ยว อ.เชียงคานแต่ยังเลือกมาพักกับเราทั้งที่ระยะทางห่างกันถึง 50 กม.และลูกค้าบางท่านที่มาทำธุรกิจในจังหวัดเลยยังเลือกเดินทางมาพักกับเราที่นี่ด้วยเหตุผลว่า ชอบโรงแรมแห่งนี้ของเราค่ะ
นอกเหนือจากแนวคิดสร้างธุรกิจโรงแรมในบ้านเกิดแล้ว ฉันยังได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ให้นำสมุนไพรไทยมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้ลูกค้าใช้ในโรงแรมเพื่อความปลอดภัยจากสารเคมีที่มีขายในท้องตลาดทั่วไปและเป็นการส่งเสริมสนับสนุนคุณค่าของสมุนไพรไทย ฉันจึงเริ่มศึกษาสรรพคุณของสมุนไพรไทยและเรียนรู้การแปรรูปสมุนไพรจากผู้เชี่ยวชาญจนในที่สุดก็สร้างแบรนด์ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร A-LISA ได้สำเร็จ ด้วยแนวคิดที่จะสนับสนุนการใช้สมุนไพรไทยและเผยแพร่คุณค่าของสมุนไพรไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น เมื่อได้นำผลิตภัณฑ์มาให้ลูกค้าใช้ในโรงแรมก็เป็นที่ยอมรับและติดอกติดใจ จนปัจจุบันนี้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย A-LISA กลายเป็นสินค้าหลักของโรงแรม เป็นของฝากที่ต้องหิ้วติดไม้ติดมือไปฝากคนที่บ้านและเป็นของขวัญที่ส่งมอบความสุขให้กับคนพิเศษในโอกาสต่าง ๆ เรื่องราวเหล่านี้ทำให้ฉันมีความสุขมากขึ้นเพราะได้ทำตามสิ่งที่ตั้งเป้าหมายไว้ นั่นคือการสร้างสินค้าและบริการที่ส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าของเราค่ะ ถ้าคุณกำลังวางแผนจะสร้างธุรกิจโรงแรมสักแห่งลองมองหาเรื่องราวดี ๆ จากสิ่งใกล้ตัวดูนะคะ ว่ามีเรื่องราวดี ๆ อะไรบ้างที่คุณอยากนำมาเล่าให้ลูกค้าของคุณฟัง เช่น ประเพณีของท้องถิ่นที่สิบทอดกันมาอย่างยาวนาน ผลผลิตที่มีชื่อเสียงในท้องตลาดจากบ้านเกิดของคุณ เป็นต้นค่ะ และถ้าคุณนำเรื่องราวเหล่านี้มาบอกเล่าผ่านธุรกิจโรงแรมของคุณอย่างมีความสุข มันจะช่วยให้ลูกค้ามองเห็นคุณค่าและจดจดธุรกิจโรงแรมของคุณได้มากขึ้นค่ะ
วิธีที่ 3 การแบ่งปัน
ตามที่คุณได้ทราบแต่ต้นแล้วว่า ครอบครัวของฉันมีบรรพบุรุษเป็นเกษตรกรและพ่อกับแม่ของฉันก็ยังคงเป็นเกษตรที่เรียนจบการศึกษาเพียงแค่ชั้น ป.4 ถึงแม้พวกท่านจะเรียนน้อยแต่ก็ยังเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษา พวกท่านจึงพยายามใช้ความสามารถเท่าที่มีตั้งหน้าตั้งตาหาเงินส่งฉันกับน้องชายเรียนให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยมีความหวังว่าถ้าฉันกับน้องชายเรียนจบสูง ๆ จะได้มีงานดี ๆ ทำ ไม่ต้องมาทำไร่ทำนาตากแดดตากลมให้ตัวดำเหมือนพ่อกับแม่ ฉันขอไม่ลงรายละเอียดในเรื่องครอบครัวมากไปกว่านี้นะคะ ประเดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องดราม่า แต่ประเด็นที่อยากชี้ให้คุณเห็นก็คือว่า คนไทยส่วนใหญ่นั้นมีพื้นฐานมากจากอาชีพเกษตกรรมและหวังว่าการส่งลูกให้เรียนจบสูง ๆ ก็จะได้เข้าไปเป็นลูกจ้างในบริษัทเอกชนใหญ่ ๆ หรือรับราชการมีบำเน็จบำนาญไว้กินตอนแก่เฒ่า แต่บางคนพอเข้าทำงานไปได้ซักพักก็เกิดความเบื่อหน่ายคิดอยากออกมาทำธุรกิจเป็นของตัวเองบ้าง แต่ก็ขาดทักษะความรู้และขาดแหล่งความรู้ที่จะหาข้อมูลเพื่อนำไปสร้างธุรกิจได้จริง ๆ เมื่อลงทุนไปแล้วไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังไว้ก็รู้สึกท้อและยอมแพ้ในที่สุด บางคนถอดใจและยอมสูญเสียเงินลงทุนก้อนแรกเพื่อปิดกิจการแล้วกลับไปเริ่มต้นทำอาชีพลูกจ้างเหมือนเดิม
ฉันจึงเกิดไอเดียอยากแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์และแรงบันดาลใจจากการทำธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กที่ตัวเองมี เพื่อช่วยให้คนไทยที่อยากสร้างธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กได้มีแหล่งหาข้อมูลความรู้ไปใช้สร้างธุรกิจของตัวเองได้ โดยเป็นข้อมูลที่เข้าใจง่ายและนำไปปฏิบัติได้จริง ตัวฉันเองเมื่อตอนเริ่มต้นสร้างธุรกิจโรงแรมก็มีความรู้ไม่ยาวไปกว่าหางอึ่งเลย มีแต่ความฝันที่อยากจะสร้างโรงแรมให้สำเร็จเท่านั้นและความรู้นอกเหนือจากนี้ก็คือการลองผิดลองถูกและเรียนรู้จากประสบการณ์จริง
ฉันจึงอยากนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาแบ่งปันเพื่อช่วยให้คนไทยสามารถสร้าง ธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก ของตัวเองได้ เมื่อคุณสร้างธุรกิจโรงแรมได้ 1 แห่ง คุณก็ได้สร้างที่พักที่ดีที่สุดเพื่อส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าเพิ่มอีก 1 แห่ง และคุณยังได้สร้างงานสร้างอาชีพให้กับพนักงานของคุณให้เขามีรายได้ไปเลี้ยงดูครอบครัว และยังเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยของเรา และถ้าคุณนำความรู้ที่ฉันแบ่งปันไปสร้างธุรกิจโรงแรมของตัวเองได้อย่างมีความสุข นั่นก็คือความสุขที่ยิ่งใหญ่ของฉันเช่นกันค่ะ
แล้วความสุขของคุณเป็นแบบไหนคะ?
ถ้าคุณได้รับความสุขจากบทความหรือคลิปวิดิโอนี้ ก็ช่วยกดแชร์เพื่อบอกต่อและส่งต่อความสุขให้กับเพื่อนของคุณด้วยนะคะ หรือคุณจะร่วมเขียนแบ่งปันความสุขไว้ใต้คลิปวิดิโอนี้ก็ได้ค่ะ เพราะการประกาศออกมาว่าอะไรคือความสุขของคุณ มันจะช่วยให้คุณได้รับความสุขที่ต้องการเร็วยิ่งขึ้น
“เราเชื่อว่าการแบ่งปันความรู้ คือพลังที่ยิ่งใหญ่”
ขอให้ทุกท่านจงสร้างธุรกิจโรงแรมที่ดี มีคุณภาพเพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยของเรา
หากคุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ
มาร่วมเรียนรู้ไปด้วยกันกับหลักสูตร เจ้าของโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็ก ใคร ๆ ก็เป็นได้
คอร์สอบรมที่ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมได้ ภายใน 2 วัน
หนังสือที่คนอยากทำธุรกิจโรงแรมต้องอ่าน!!!
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
มาเป็นเพื่อนกับเราทางไลน์!!!
ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารและบทความดีๆ