เคล็ดลับ 3 ข้อ ที่จะช่วยคุณสร้างธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กให้ประสบความสำเร็จ

การแบ่งปันความรู้คือพลังที่ยิ่งใหญ่ ช่วยกดไลค์ กดแชร์ และบอกต่อด้วยนะคะ

1,050

เราทุกคนมีภูเขาเอเวอเรสท์เป็นของตนเอง แต่คุณจะปีนไปสู่ยอดเขาได้หรือไม่อันนี้ต้องถามหัวใจของคุณดู เพราะภูเขาเอเวอร์เรสท์นี้อุปมาก็เหมือนเป้าหมายในชีวิตของคุณทุกคนนั่นแหละค่ะ และถ้าหากคุณมีเป้าหมายของคุณคือการเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กสักแห่ง ฉันก็มีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อยากแบ่งปันเพื่อให้คุณก้าวไปสู่ความสำเร็จค่ะ

แสดงเนื้อหาเพิ่ม คลิกที่นี่

รับชมแบบคลิปวิดิโอบน youtube ได้ที่นี่ค่ะ

เคล็ดลับที่ฉันนำมาแบ่งปันให้คุณนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่และสลับซับซ้อนอะไรเลย แต่เป็นอะไรที่เรียบง่ายที่ฉันได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงของตนเอง ประสบการณ์ตรงที่เริ่มต้นจากความไม่รู้อะไรเลยแต่เพราะฉันมีเป้าหมายตั้งมั่นอยู่ในใจอยู่แล้วว่าจะต้องปีนไปให้ถึงยอดเขาเอเวอร์เรสท์ให้ได้ ซึ่งเป้าหมายนั้นก็คือ การสร้างธุรกิจโรงแรมที่คนเดินทางมายังอ.ท่าลี่ จ.เลยแห่งนี้ต้องมาเลือกใช้บริการเป็นอันดับ 1 เสมอ และนี่คือสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้และขอนำมาแบ่งปันให้กับคุณผู้อ่านที่อยากสร้างโรงแรมให้ประสบความสำเร็จค่ะ

สารบัญ

เคล็ดลับ 3 ข้อ ที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในธุรกิจโรงแรม–รีสอร์ทขนาดเล็ก

เคล็ดลับที่ 1 กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

เพื่อให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน ฉันขอยกตัวอย่างโรงแรม Le bar tarry ซึ่งเป็นโรงแรมของฉันเองให้เป็นกรณีศึกษาสำหรับคุณผู้อ่านในหัวข้อนี้เลยก็แล้วกันนะคะ ก็อย่างที่ฉันได้บอกเล่าอยู่เสมอว่าตัวเองนั้นแต่เดิมไม่มีความรู้เรื่องการทำธุรกิจโรงแรมมาก่อนเลย คิดเพียงแค่ว่าถ้าหากก่อสร้างโรงแรมเสร็จแล้วเดี่ยวก็คงจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเองเพราะโรงแรมของเรานั้นใหม่และออกแบบทางสถาปัตยกรรมได้สวยงามโดดเด่นกว่าใคร ๆ ในพื้นที่ แต่บอกเลยว่าความคิดนี้นั้นผิดถนัดจริง ๆ เนื่องจากทำเลของโรงแรมนั้นไม่ได้มีสิ่งดึงดูดให้คนเดินทางเข้ามามากนัก เพราะไม่มีสถานที่ชื่อดังและแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่สวยงามไว้ดึงดูดนักท่องเที่ยวเหมือนกับที่อื่น แต่คนที่เดินทางมายังอำเภอท่าลี่นั้นจะเป็นกลุ่มคนที่เดินทางมาทำกิจธุระเป็นส่วนใหญ่ เช่น มาเพื่อรอข้ามด่านสะพานมิตรภาพไทย–ลาว มางานราชการ มาเยี่ยมญาติพี่น้อง มางานแต่ง งานบวช งานศพหรืองานพิธีกรรมต่าง ๆ บ้างก็มาวัดในละแวกนี้ตามความเลื่อมใสศรัทธา เมื่อได้ศึกษาวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมของคนที่เดินทางมายังอำเภอท่าลี่แล้ว ดังนั้นฉันจึงกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโรงแรมให้ชัดเจนขึ้นว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโรงแรม Le bar tarry คือ คนที่เดินทางมาทำกิจธุระในอำเภอท่าลี่ เป็นคนชนชั้นกลางที่มีกำลังจ่ายและมีการศึกษาอยู่ในระดับอนุปริญญาขึ้นไป

เมื่อกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้แล้ว ฉันก็เริ่มกำหนดกลยุทธ์เพื่อจะดึงดูดให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเหล่านี้เลือกโรงแรม Le bar tarry เป็นที่ 1 ในใจทุกครั้งที่ได้เดินทางมายังอำเภอท่าลี่ ซึ่งกลยุทธ์นั้นก็ได้แก่

การตั้งชื่อโรงแรม การตั้งชื่อโรงแรมนั้นควรเป็นชื่อที่สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน เมื่ออ่านชื่อแล้วต้องสามารถจินตนาการเห็นภาพสินค้าหรือบริการที่จะได้รับเกิดขึ้นในมโนภาพของลูกค้าขึ้นทันที ยกตัวอย่างเช่น ฉันเลือกตั้งชื่อโรงแรมว่า Le Bar Tarry คำว่า Le เป็นภาษาฝรั่งเศสมีความหมายเหมือน The ในภาษาอังกฤษ เพราะตัวอาคารของโรงแรมนั้นเป็นสไตล์โพรว๊องซ์เมืองทางตอนใต้ของทางฝรั่งเศส ฉันจึงต้องการให้มีกลิ่นอายของฝรั่งเศสผสมอยู่ในชื่อด้วย Bar สื่อความหมายถึงเป็นที่กินหรือมีอาหารไว้บริการ และTarry แปลว่าที่พักริมทางซึ่งความหมายก็ชัดเจนตรงตัวและยังเป็นคำพ้องเสียงกับอำเภอท่าลี่ด้วยทำให้จดจำได้ง่ายขึ้น ซึ่งการตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษนี้ยังเป็นข้อดีสำหรับกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่ค้นหาบนเว็บไซต์ด้วยค่ะ เพราะลูกค้าสามารถเข้าใจได้ง่ายและยังรู้สึกมั่นใจได้ว่าหากมาพักที่โรงแรมแห่งนี้คงสามารถสื่อสารกันเข้าใจได้บ้าง

การออกแบบอาคารให้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง ฉันเลือกการออกแบบตัวอาคารของโรงแรม Le bar tarry เป็นสไตล์โพรว๊องซ์ของฝรั่งเศสด้วยเหตุผลว่าต้องการความโดดเด่นและแตกต่างเพราะโรงแรมที่เป็นคู่แข่งในพื้นที่ส่วนใหญ่จะใช้สไตล์ไทยประยุกต์ซึ่งออกจะเหมือนหรือคล้ายกันไปเสียหมด และฉันต้องการส่งมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับลูกค้าด้วยว่าหากมาที่อำเภอเล็ก ๆ ที่ห่างไกลเช่นนี้แต่คุณยังได้สัมผัสกับบรรยากาศในสไตล์ยุโรปซึ่งส่วนใหญ่จะสร้างอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำเท่านั้น จึงทำให้โรงแรมแห่งนี้นั้นเป็นที่จดจำและได้ถูกเลือกให้เป็นสถานที่พักลำดับต้น ๆ สำหรับคนที่เดินทางมายังอำเภอท่าลี่และด้วยความโดดเด่นของสถานที่ จึงทำให้แขกที่เข้ามาพักชอบถ่ายรูปตามมุมต่าง ๆ เพื่อนำไปเผยแพร่ในโซเชียลทำให้โรงแรมของเรากลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องลงทุนทำการตลาดเอง

ตั้งราคาให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่คุณต้องกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายนั้น ก็เพื่อคุณจะได้รู้กำลังจ่ายของลูกค้า หากที่พักของคุณอยู่ในทำเลแหล่งท่องเที่ยวคุณจะตั้งราคาให้เท่ากับคู่แข่งในพื้นที่เท่าไหร่ก็ได้ยังไงก็มีลูกค้าเข้าพักแน่ ๆ ถ้าหากเป็นช่วงเทศกาล แต่หากโรงแรมของคุณจับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ คุณก็ต้องมั่นใจมากพอว่าโรงแรมของคุณนั้นออกแบบก่อสร้างได้หรูหราเพียงพอต่อความคาดหวังของลูกค้า แต่ถ้าคุณจับกลุ่มลูกค้านักธุรกิจ กลุ่มข้าราชการระดับสูง กลุ่มพนักงานขาย คุณก็ควรรู้อัตราที่ลูกค้ากลุ่มนี้สามารถจ่ายได้ เพื่อจะได้ตั้งราคาให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายไม่ถูกเกินไปจนเข้าเนื้อและไม่แพงเกินไปจนสู้กับคู่แข่งในพื้นที่ไม่ได้

เคล็ดลับที่ 2 Story Telling

ถ้าอยากให้โรงแรมของคุณเป็นที่จดจำคุณต้องมีเรื่องเล่า เพราะการที่คุณมีเรื่องราวมาเล่านั้นมันจะช่วยให้ธุรกิจโรงแรมของคุณแตกต่างจากคู่แข่งอย่างมีอัตลักษณ์ที่ชัดเจน แล้วถ้าเรื่องที่คุณเล่านั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจมันก็จะยิ่งเข้าไปตราตรึงอยู่ในใจของลูกค้าจนทำให้พวกเขานั้นประทับใจและในที่สุดก็กลายเป็นลูกค้าขาประจำของคุณโดยปริยายหรือหากแม้นเขาไม่ได้มาเป็นแขกเข้าพักด้วยตนเองอย่างน้อยเขาก็ต้องนำเรื่องราวของคุณไปบอกไปเล่าต่อให้คนรู้จักได้รับฟังบ้างล่ะ และถ้าพวกเขาเหล่านั้นจะเดินทางมายังพื้นที่ของคุณเขาก็ต้องเลือกพักโรงแรมของคุณเป็นอันดับ 1 อย่างแน่นอนค่ะ

ขอยกเอาตัวอย่าง โฮมสเตย์บ้านอากง ทีได้เคยมีโอกาสไปพักที่จังหวัดอยุธยาก็แล้วกันนะคะ เพราะโฮมสเตย์แห่งนี้มี Story Telling ที่ชัดเจนมาก ๆ คือเป็นการนำเอาบ้านเก่าของอากงซึ่งสร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 อายุร้อยกว่าปีมาดัดแปลงเป็นที่พัก บอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวคนจีนที่มาทำมาค้าขายอยู่ในประเทศไทยในสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี ใช้การออกแบบตกแต่งด้วยการอนุรักษ์ของเดิม ๆ ที่เป็นของโบราณเอาไว้ให้มากท่ีสุด ทำให้ได้กลิ่นอายของความเป็นไทยเชื้อสายจีนแบบย้อนยุคจริงๆ ค่ะ และทางเจ้าของยังได้จัดชุดไทยหลากหลายแบบรวมทั้งชุดกี่เพ้าแบบจีนเอาไว้ให้แขกได้ใส่ถ่ายรูปภายในโฮมสเตย์ด้วยค่ะ ได้บรรยากาศเหมือนกับว่าเราได้ถ่ายรูปจากในยุคโบราณจริง ๆ ทำให้ที่พักแห่งนี้ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติมากในช่วงก่อนที่ไวรัส-19 จะระบาด แต่ทุกวันนี้แม้จะขาดลูกค้าชาวต่างชาติแต่ก็ยังได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทยที่อยากไปเสพบรรยากาศแบบไทยย้อนยุคริมแม่น้ำป่าสักที่โฮมสเตย์แห่งนี้ไม่เคยขาดเลยค่ะ นี่แหละค่ะคือพลังของ Story Telling

อ่านบทความ จุดแข็งและจุดขายของธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็ก : ข้อคิดจากโฮมสเตย์บ้านอากง คลิกที่นี่…

เคล็ดลับที่ 3 มีหัวใจรักบริการ

โดยส่วนตัวแล้วฉันเชื่อว่าข้อนี้สำคัญที่สุด เพราะเมื่อคุณได้ลงมือทำสิ่งใดแล้วหากไม่มีหัวใจรักในสิ่งที่ทำมันก็เหมือนกับว่าคุณไม่ได้ใส่จิตวิญญาณลงไปในนั้นด้วย ดังน้ันผลลัพธ์ที่ได้มามันจึงสำเร็จแบบขอไปทีแต่ไร้ซึ่งชีวิตชีวา ถ้าธุรกิจโรงแรมของคุณก่อสร้างเสร็จจนเปิดให้บริการแล้วและตัวอาคารของคุณนั้นก็ดูจะสวยเด่นสะดุดตามากจนใคร ๆ ก็อยากมาใช้บริการเพื่อเสพบรรยากาศของสถาปัตยกรรมที่แปลกใหม่ แต่หากคุณขาดซึ่งหัวใจบริการแล้วโรงแรมของคุณก็เหมือนกับอาคารก่อสร้างทั่ว ๆ ไปนั่นแหละค่ะ ลูกค้าเขาก็คงมาแล้วก็ไปเพราะไม่มีอะไรที่ประทับใจให้นึกถึง เพราะโรงแรมนั้นเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริการ เมื่อคุณวางแผนก่อสร้างอาคารและเปิดบริการให้กับแขกได้เข้ามาพักแล้วหน้าที่ของคุณมันยังไม่จบแค่นี้นะคะ แต่ฉันต้องขอใช้คำว่ามันเพิ่งจะเริ่มต้นต่างหาก เพราะคุณต้องเริ่มต้นวางแผนการให้บริการในทุกระดับประทับใจต่อลูกค้ากับพนักงานของคุณ และถ้าโรงแรม–รีสอร์ทของคุณเป็นขนาดเล็ก คุณจะต้องเป็นทุกอย่างตั้งแต่เจ้าของกิจการ แม่บ้าน พนักงานบัญชีและพนักงานต้อนรับ คุณยิ่งต้องใส่ความรักบวกกับความอดทนเป็นสองเท่าเลยล่ะคะ เพราะลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการคุณนั้นมีมากมายหลากหลายแบบร้อยพ่อพันแม่จริง ๆ แต่ละคนก็ความต้องการไม่เหมือนกัน คุณต้องรับมือให้ไหวนะคะ

สำหรับลูกค้าแล้วไม่ว่าเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่โตล้วนแต่เห็นเป็นเรื่องใหญ่เสมอ ช่องว่างระหว่างเรากับลูกค้าคือพื้นที่ตรงกลางที่ต้องสร้างความพึงพอใจร่วมกันเพื่อสร้างความภักดีต่อแบรนด์หรือองค์กรเอาไว้ หากแม้เกิดข้อบกพร่องขึ้นคำขอโทษใดๆ ก็ไม่เพียงพอต่อการรักษาความภักดีของลูกค้า ดังนั้นแล้วในฐานะของผู้ประกอบการ เราจึงต้องสร้างงานด้วยหัวใจรักจริง ๆ เพื่อให้บริการที่ออกมาอย่างเป็นเลิศ

ถ้าการสร้างธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กให้สำเร็จนั้น คือเป้าหมายในชีวิตคุณ ฉันก็หวังว่าเรื่องราวที่นำมาแบ่งปันนี้จะช่วยคุณให้เดินทางไปสู่เป้าหมายนั่นคือการช่วยคุณปีนป่ายขึ้นไปบนยอดเขาเอเวอร์เรสท์ได้จนถึงยอดเขาให้สำเร็จค่ะ