.

My Story

เอลิษา ไทยสิทธา

ฉันสร้าง WWW.A-LISA.NET ขึ้นมาด้วยตั้งใจว่าจะเอาไว้แบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และแรงบันดาลใจสำหรับคนอยากทำธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก รวมถึงแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ และแรงบันดาลใจ   ในการใช้ชีวิต ด้วยเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่มีความฝันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กสักแห่ง แต่ยัง    ไม่กล้าลงมือทำ ฉันเชื่อเสมอว่า การแบ่งปันความรู้ คือพลังที่ยิ่งใหญ่

ถ้าคุณอยากรู้จักฉันมากขึ้น ว่ากว่าที่ฉันจะมีวันนี้ได้ผ่านอะไร     มาบ้าง คุณลองมาอ่านเรื่องราวของฉันดูเป็นไง เรื่องราวของฉันต่อจากนี้อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณกล้าลงมือสร้างธุรกิจของตัวเองก็เป็นได้ เนื้อเรื่องอาจจะยาวสักหน่อย เหมาะสำหรับคนที่มีความอดทนมากเท่านั้นจริง ๆ

 

 

วัยเด็ก

ฉันเป็นลูกชาวนาโดยกำเนิด ครอบครัวของฉันอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของ อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย  ตั้งแต่ฉันจำความได้  ทุก ๆ เดือน 5 ของทุกปี คือช่วงปลายเดือนเมษายนถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ทุกคนในครอบครัวฉันคือพ่อ แม่ ปู่ ย่า จะยุ่งอยู่กับการ เตรียมตัวเพื่อทำนาเนื่องจากเป็นช่วงต้นฤดูฝนของทุกปี ตอนนั้นฉันยังเด็กไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรนัก แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำคือปั่นจักรยานเพื่อไปซื้ออาหารสดกับแม่ที่ตลาดสดในตัวอำเภอซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กม.ตั้งแต่ตอนตีสี่ เพื่อจะได้นำมาทำอาหารเลี้ยงคนงานที่มารับจ้างทำนาซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนลาวแอบอพยบเข้ามา        

 

 คุณรู้ไหมค่ะว่าเด็กอายุ 5 ขวบในตอนนั้นกับการตื่นนอนตอนตีสี่มันทรมานแค่ไหน แต่พอฉันถึงวัยที่ต้องเข้าโรงแรียนตามเกณฑ์ที่กำหนด ก็เป็นโรงเรียนเล็ก ๆในหมู่บ้านนั่นแหละค่ะ แม่คงนึกสงสารเลยไม่ปลุกฉันตื่นแต่เช้าอีก แต่ถ้าเป็นวันเสาร์อาทิตย์ ฉันยังต้องไปท้องนาเหมือนเดิม เพราะครอบครัวฉันทำการเพาะปลูกหลายอย่าง แม่กับพ่อเป็นคนขยัน เราทำสวนยาสูบ  ปลูกฝ้าย ทำไร่ข้าวโพด    ถั่วแดง และแม่ยังปลูกผักสวนครัวไว้กินและขายหลายอย่างอีกด้วย ขณะที่ฉันนั่งเขียนเรื่องราวในวัยเด็กอยู่นี้ ความทรงจำต่าง ๆ ในอดีตก็ค่อย ๆ ผุดขึ้นมาทีละน้อย ทำให้รู้สึกจุกแน่นในอกกลั้นน้ำตาเอาไว้แทบไม่อยู่ เพราะคิดถึงบุคคลหลายคนในอดีตที่บัดนี้ได้จากไปอย่างไม่มีวันได้หวนกลับอีกแแล้ว

 

a-lisa.net
อำเภอท่าลี่

 

จังหวัดเลยนั้นเป็นจังหวัดที่มีคำขวัญว่า “เมืองแห่งทะเลภูเขา    สุดหนาวในสยามในฤดูหนาวช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์อากาศจึงหนาวเย็นมากกว่าทุกพื้นที่ และยิ่งตอนวัยเด็ก ฉันว่ามันหนาวจริง ๆ หนาวยิ่งกว่าอากาศในยุคปัจจุบันนี้ซะอีก     อาจเป็นเพราะภาวะโลกร้อน จึงทำให้ฤดูหนาวของจังหวัดเลยยุคนี้ไม่ค่อยหนาวเหมือนในอดีต สมัยฉันยังเด็กจำได้ว่าตอนเรียนหนังสือก็ยังต้องออกมาเรียนกลางแดดกันเลยทีเดียว เพราะในห้องเรียนมันหนาวเหลือเกิน และทุกบ้านก็จะต้องก่อกองไฟไว้หน้าบ้านเพื่อผิงไฟสู้กับอากาศหนาวกัน ฉันชอบฤดูหนาวเพราะมันทำให้บริเวณนั้น ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็กลายเป็นสีขาวโพลนด้วยไอหมอกสุดลูกหูลูกตาดูลึกลับสวยงามมากเลยทีเดียว แต่สิ่งที่มาพร้อมกับฤดูหนาวที่ฉัน  ไม่ชอบเอามาก ๆ แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นก็คือมันเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวใบยาสูบและนำมาแปรรูปทำยาเส้น  ในสมัยนั้นแทบจะเรียกว่าเป็นสินค้าOTOP ของหมู่บ้านเลยก็ได้ ทุก ๆ ใต้ถุนบ้านจะต้องมีคนจัดเรียงใบยา บ่มยา และทำยาเส้น ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่มีให้เห็นกันแล้วขั้นตอนในการทำยาเส้นในยุคนั้นคือ หลังจากปลูกใบยาสูบจนต้นยาสูบเติบโตเต็มที่แล้ว จะต้องไปเด็ดใบยาสูบจากต้นทีละใบ  เพื่อนำมาบ่มให้ใบเหลืองสวย ก่อนจะบ่มต้องเรียงกันเป็นตับจาก  ใบใหญ่ไปหาใบเล็กก่อนแล้วถึงจะบ่มได้ หลังจากบ่มจนใบยาสูบเหลืองแล้วจึงนำเข้าสู่กระบวนหั่นทำยาเส้น ในยุคนั้นไม่มีเครื่องจักร แต่จะมีอุปกรณ์คล้ายม้าไม้เรียกว่า ม้าหั่นยา การหั่นยาต้องมีม้ารองนั่งสำหรับนั่งหั่นยา และมีดหั่นยาประกอบกัน หั่นเป็นเส้นฝอย ๆ    ให้เส้นยาสูบบางที่สุด หน้าที่หั่นยาจะเป็นของพ่อกับปู่ฉัน ส่วนฉัน แม่ และย่า จะมีหน้าที่นำยาไปตากใส่กระแตะ เรียกว่า กระแตะยาตากเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมเรียงกันประมาณ 20*30 ซม.ในระหว่างที่ทำการแปรรูปยาเส้นนี้ มือของฉันก็จะดำไปด้วยสารนิโคตินที่มาจากใบยาสูบ ทั้งขมทั้งเหนียวจนล้างแทบไม่ออกเลยค่ะ นำใบยาสูบไปตากแดดให้แห้งใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ฉันเคยได้ยินย่าบอกว่า ถ้าตากใบยาสูบบนแดดยามเช้าที่ผสมลงมาพร้อมไอหมอกจะทำให้ยาสูบรสชาติดีขึ้น เส้นยาจะกรอบและนุ่มได้ที่กำลังดี  และใบยาสูบ ที่อยู่บนยอดจะให้รสชาติเข้มข้นกว่าใบยาสูบที่อยู่โคนต้น และใบยาสูบที่ตากแดดจนแห้งได้ที่แล้ว ในขั้นตอนสุดท้ายคือการพับเส้นยาสูบที่ตากเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมเก็บให้เรียบร้อยในกระบุง เป็นอันเสร็จงาน

 

หลังจากนั้นเป็นขั้นตอนการจำหน่าย ย่าจะเป็นคนนำไปจำหน่ายด้วยตัวเอง โดยย่าจะต้องห่อยาสูบใส่ถุงพลาสติกนำใส่ตระกร้าที่สานจากไม้ไผ่ 2 ใบ หาบด้วยไม้คาน เป็นตระกร้าที่ปู่สานเตรียม     ไว้ให้ ย่าจะขึ้นรถสองแถวที่มีอยู่เพียงสายเดียวในหมู่บ้านเพื่อนำยาสูบไปขายในตัวจังหวัดหรือต่างอำเภอ ฉันก็ไม่ค่อยรู้มากนักหรอกว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของย่าเป็นใครกันบ้าง ย่าในความทรงจำ ของฉันตอนนั้นเป็นแค่หญิงชราตัวเล็ก ๆ ที่ขยันมาก ย่ามีแรงหาบตะกร้ายาสูบหนักข้างละหลายสิบกิโลทั้งวันโดยไม่บ่นสักคำ  บางทีย่าก็หายไปนาน 2-3 วันกว่าจะกลับมา  ฉันก็เคยสงสัยเหมือนกันว่าย่าไปนอนค้างที่ไหน คงไม่ใช่ในโรงแรมแน่ๆ (ฮา)  แต่เคยได้ยิน    ย่าเล่าให้ฟังว่าไปนอนตามบ้านญาติหรือเสี่ยวที่อยู่แถวนั้น ( เสี่ยว   ในสมัยนั้นคือคนที่เกิดปีเดียวกัน แล้วถูกชะตากัน ก็จะผูกข้อไม้ข้อมือแต่งขันดอกไม้เพื่อให้สัญญาว่าจะเป็นเพื่อนรักกันตลอดไป) เมื่อย่ากลับมาถึงบ้านทุกครั้ง ตะกร้าที่ในตอนแรกเคยใส่ยาเส้นไว้จนเต็มเพื่อนำไปขายก็จะเปลี่ยนเป็นตะกร้าใส่ของจำพวกขนมพื้นบ้าน   หรือของเล่นพื้น ๆ ที่หาซื้อได้ตามตลาดนัดทั่วไปในหมู่บ้านกลับมาเป็นของฝากให้กับฉัน คงเป็นรางวัลที่ฉันช่วยย่าทำยาสูบนั่นเอง  อ่านเรื่องราววัยเด็กของฉันมาถึงตรงนี้แล้วคุณมองเห็นภาพวันวานที่สวยงามของตัวเองบ้างไหมคะ

 

ถ้าคุณอยากรู้จักฉันมากขึ้น อ่านเรื่องราวของฉันได้ที่ “นวนิยาย เมี่ยงคำ”

คลิกดูรายละเอียดได้ ที่นี่

(หนังสือพร้อมส่ง จัดส่งฟรีทั่วประเทศ)

 

ราคาเล่มละ 320 บาท

 

เมี่ยงคำ
.

 

 

a-lisa.net
ครอบครัวของเรา

 

 

แต่ถึงจะมีวันที่สวยงามเพียงใด ฉันก็ยังมีความรู้สึกเบื่อหน่ายกับกิจวัตรประจำวันของตนเองอยู่ดี ตื่นเช้าเดินไปโรงเรียน พอตกตอนเย็นก็ต้องกลับมาช่วยแม่ทำงานบ้าน และวันหยุดต้องไปช่วยย่าทำงานที่สวนยาสูบ หันไปทางไหนก็เจอแต่หมู่บ้านเล็ก ๆ ไร้ความเจริญหูเจริญตากับภูเขาล้อมรอบ  อยากเดินทางเข้าเมืองไปเที่ยว  กับเขาทั้งทีแสนจะลำบาก การเดินทางเข้าเมืองในสมัยนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องเตรียมตัวในการเดินทางกันพอสมควร เพราะเส้นทางการคมนาคมสมัยนั้นส่วนใหญ่ยังเป็นถนนลูกรัง แม้ถนนที่เข้า   สู่ตัวเมืองได้จะเป็นถนนลาดยางแล้วแต่ก็เป็นถนนสองเลนแคบๆ

 

 มีอยู่สิ่งหนึ่ง ที่ลูกชาวนาอย่างฉันถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตและถือว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดที่พ่อกับแม่ซึ่งเป็นชาวนาได้มอบให้  นั่นก็คือท่านได้ปลูกฝังให้ฉันเป็นคนรักการอ่านหนังสือ ในทุก ๆ ปีก่อนวันเปิดเทอมใหญ่แม่จะนำเงินที่ได้จากการขายข้าวพาฉันเข้า   ไปในตัวเมือง เพื่อซื้อหนังสือและอุปกรณ์การเรียนเตรียมไว้สำหรับวันเปิดภาคเรียน  และแม่จะอนุญาตให้ฉันสามารถเลือกซื้อหนังสือ  ที่ฉันชอบได้หนึ่งเล่มนอกจากตำราเรียน ฉันอยากได้หนังสือนิทานและการ์ตูนตามประสาเด็ก แต่มีหนังสือเล่มหนึ่งที่ฉันจำได้ ว่าฉันได้เลือกตอนอยู่ประมาณชั้นป.4 เป็นหนังสือการ์ตูนเรื่องสามก๊ก หนังสือเล่มนี้จัดว่าเป็นหนังสือสุดรักสุดหวงของฉันเลยเชียวละ  อ่านเท่าไร  ก็ไม่มีเบื่อ อ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกจนจบไปตั้งหลายรอบ ตัวละครที่ชอบมากที่สุดคือ ขงเบ้ง ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเรื่องสามก๊กเป็นนิยายจีนอิงประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ตั้งแต่นั้นมา    ฉันจึงกลายเป็นคนที่รักการอ่านหนังสือมาก ฉันอ่านหนังสือห้องสมุดของโรงเรียนและห้องสมุดประชาชนของอำเภอจนเกือบหมดทุกเล่ม เพราะการอ่านหนังสือมาก ๆ นี่เองทำให้ฉันค้นพบว่า นอกจากหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ฉันอาศัยอยู่นี้กับท้องไร่ท้องนา ก็ยังมีโลกภายนอก ที่กว้างใหญ่ไพศาลที่ฉันยังไม่เคยได้ออกไปพบเห็นหรือสัมผัสเลย และบนโลกใบนี้ยังมีบุคคลเก่ง ๆ อีกมากที่สร้างสรรค์ผลงานเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ สร้างการเปลี่ยนแปลงของโลกตามยุคสมัย และมีชื่อฝากไว้ในประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ และ ถึงแม้จะขัดคำสั่งที่จะไม่ยอมไปท้องนากับแม่ไม่ได้ ฉันจึงมักจะพกหนังสือไปนอนอ่านที่เถียงนาและใต้ต้นไม้บ่อยๆ

 

a-lisa.net
ถ่ายคู่กับพ่อ ภายหลังเสร็จพิธีรับปริญญาที่ม.รามฯ

 

 

วัยรุ่น

พอเรียนจบชั้นประถมศึกษาของโรงเรียนประจำหมู่บ้าน ฉันก็เข้าเรียนต่อชั้นมัธยมของโรงเรียนประจำอำเภอ การเข้าเรียนต่อชั้นมัธยมต้นต้องมีการสอบเข้าเพื่อคัดเลือกและแบ่งกลุ่มนักเรียนเพื่อ ให้อยู่ในห้องเรียนตามIQ ของนักเรียน  คนที่เรียนเก่งระดับต้นจะได้อยู่ห้อง 1 ซึ่งถือว่าเป็นห้องคิงในขณะนั้น  มีเรื่องที่ทำให้ฉันประหลาดใจมาก เพราะหลังจากประกาศผลอันดับในการเข้าสอบ ฉันสอบได้อันดับที่ 1 ของโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ  เป็นไปได้ยังไงเนี่ย..

 

แต่ถึงแม้จะสอบเข้าเรียนได้เป็นอันดับที่ 1 แต่ผลการเรียนของฉันก็ไม่ค่อยดีนัก การที่ผลการเรียนของฉันไม่ค่อยดีนัก ฉันคิดว่าคงเป็นเพราะตอนนั้นฉันยังค้นหาตัวเองไม่เจอว่ามีเป้าหมายในการเรียน  ไปเพื่ออะไร ตอนนั้นตอบไม่ได้จริง ๆ ค่ะ ว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร  และเป็นช่วงชีวิตที่เข้าสู่วัยรุ่น จึงทำให้อยากเรียนรู้การใช้ชีวิตจากประสบการณ์จริงมากกว่าเรียนเองจากหนังสือหรือห้องเรียน พอเรียนจบชั้นมัธยมต้น อาจารย์แนะแนวถึงการเรียนต่อและอาชีพที่อยากเป็นในอนาคต แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เท่าไรหนัก ยุคนั้นเป็นยุคที่อุตสาหกรรมการผลิตกำลังบูม มีนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ เกิดขึ้นและมีการตั้งโรงงานผลิตจากต่างชาติและต้องการแรงงานไทยเป็นจำนวนมาก  ฉันเห็นหลายๆคนในหมู่บ้านไปทำงานที่กรุงเทพฯกลับมา มีเงินกลับมาให้ที่บ้านและมีทองใส่กันทั้งนั้น ฉันจึงมีความมุ่งมั่นว่าจบม.3  ฉันจะไปทำงานกรุงเทพฯ นอกจากจะทำงานได้เงินแล้วฉันยังจะได้มีโอกาสเข้ามาอยู่ในเมืองกรุง ได้เห็นโลกว้างขึ้น แต่พ่อกับแม่ไม่ยอม ในตอนนั้นท่านทำได้ดีที่สุดคือส่งให้ฉันได้เรียนต่อ วิทยาลัยอาชีวะศึกษาเลย สาขาการบัญชี แต่ด้วยใจที่จดจ่อที่ยังอยากทำงานและอยากเห็นเมืองกรุง ฉันจึงได้ตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตสำหรับเด็กวัยรุ่นอายุ 15 ในตอนนั้น  เลิกเรียนกลางคันและหนีออกจากบ้านไปกรุงเทพฯ เป็นการเดินทางไกลครั้งแรกในชีวิตของฉัน โดยใช้เงินเก็บจากค่าขนมที่แม่ให้เป็นค่าเดินทาง และหวังว่าจะไปหางานทำในกรุงเทพฯให้ได้ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายและจะส่งเงินที่เหลือมาให้ครอบครัวทางบ้าน  ฉันเดินทางไปกับเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งในอำเภอเดียวกัน เขาบอกฉันว่าเขามีญาติทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯหลายคน พอไปถึงกรุงเทพฯ โอ้ว!!! แม่เจ้า ทำไมมันช่างใหญ่โต กว้างใหญ่ขนาดนี้ นั่งรถผ่านสนามบินดอนเมือง ในชีวิตเพิ่งเคยเห็นเครื่องบินเป็นครั้งแรก ถนนก็กว้างมีหลายเลนส์ ต่างจากถนนในอำท่าลี่ของฉันมีแค่เส้นเดียวเท่านั้น ตึกสูงๆเต็มไปหมด จะไปทางไหนดี กลัวหลงทาง กลัวไปหมด แต่บอกตัวเองว่าเอาว่ะตัดสินใจแล้วยังไงก็สู้

 

a-lisa.net
สาวเมืองกรุง

 

พอรถถึงหมอดชิตเพื่อนคนนั้นพาฉันไปนั่งรถสายฉะเชิงเทรา   เพื่อไปต่อรถไปหนองจอก เขาบอกว่าญาติเขาอยู่หนองจอกเราจะ   ไปพักกันที่นั่นเพื่อตั้งหลักก่อน ตอนนั้นใจฉันกังวลไปต่าง ๆ นานา   ตื่นกลัวกับสถานที่ใหม่ ๆ กลัวครอบครัวเป็นห่วง แต่ในใจก็มุ่งมั่น  ว่าจะไม่ยอมหันหลังกลับแน่ ๆ แล้วค่อยเขียนจดหมายไปชี้แจงต่อทางบ้านอีกที หวังว่าพวกท่านคงจะเข้าใจ พอไปถึงที่พักฉันก็ตกใจแทบช็อคกับสภาพความเป็นอยู่ ที่ฉันมองว่าจะต้องสวยหรูของคน   ที่ไปทำงานโรงงานในกรุงเทพฯ แต่มันเป็นห้องเช่าสลัมดี ๆ นี่เอง พวกเขาไม่ได้มีชีวิตความเป็นอยู่ทีเลิศเลอเหมือนภาพลักษณ์ที่พวกเขาสร้างเวลากลับบ้าน ฉันคิดว่าพวกเขาคงไม่อยากให้คนที่บ้าน ต้องเป็นห่วงในความเป็นอยู่ต่างบ้านต่างเมืองของพวกเขา จึงได้ทำตัวเหมือนอยู่ดีสุขสบาย มีเงินมีทองกับการใช้ชีวิตในเมืองกรุง บ้านเช่าที่พวกเขาอาศัยอยู่หลังเล็กและโทรมกว่าบ้านในชนบทซะอีก มีคลองน้ำคลำและเศษขยะเต็มไปหมด ได้แต่เกิดคำถามขึ้นในใจว่าพวกเขาเคยอยู่ท่ามกลางธรรมชาติกับอากาศที่บริสุทธิ์ พวกเขาปรับตัวและทนอยู่ในสภาพอย่างนี้ได้ยังไงกันนะ

แม้แต่ฉันก็ต้องรีบปรับตัวเหมือนกันเพราะมีแค่ค่ารถเดินทางมากับเงินติดตัวแค่ไม่กี่ร้อยบาท โรงเรียนก็ลาออกแล้ว คิดอย่างเดียวว่าต้องเดินหน้าให้สุดๆ เพื่อนฉันพาให้ไปรู้จักพี่สาวของเขา ทำงานเป็นพนักงานขายเสื้อผ้ายี่ห้อดังอยู่ประจำห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และฝากฉันไว้กับพี่สาวของเขาเพื่อให้เข้าทำงานในห้างสรรพสินค้าด้วย  ดังนั้นงานแรกในชีวิตของฉันคือการเป็นพนักงานขายเครื่องประดับอยู่ในห้างสรรพสินค้าในย่านศรีนครินทร์ เงินเดือน 8000 บาท แต่ทำได้แค่เดือนเดียว ฉันรู้สึกอึดอัดกับที่ทำงานและเพื่อนร่วมงานอาจเพราะฉันยังปรับตัวยังไม่ค่อยได้ จึงได้ขอลาออกและตั้งใจว่าจะไปหางานโรงงานทำ  ช่วงนั้นมีโรงงานหลายแห่งในนิคมอุตสากรรมลาดกระบังกำลังเปิดรับพนักงาน ฉันโชคดีได้รับคัดเลือกให้เข้าทำงานที่บริษัท ซีเกท โรงงานผลิตฮาร์ดดีสชื่อดังในยุคนั้น นับแต่นั้นมาฉันจึงเข้าสู่ชีวิตสาวโรงงานตามที่ตั้งใจไว้ก่อนมากรุงเทพฯ การทำงานที่โรงงานเป็นอะไรที่ง่ายมาก ฉันอยู่แผนก electrical test มีหน้าที่ทดสอบค่าประจุไฟฟ้าของชิ้นงาน แล้วค่อยส่งชิ้นงานต่อให้ QC เป็นลำดับสุดท้าย ค่าแรงวันละ 150 บาท และมีรายได้จากค่าสวัสดิการอื่นๆอีกรวมแล้วประมาณวันละ 230 บาท และทุกคนจะต้องทำโอทีด้วย ฉันสนุกกับการทำงานและทำโอทีมากในช่วงนั้นนับว่าตนเองในวัย 15 มีรายได้เฉลี่ยเดือนละหมื่นกว่าบาท ถือว่าเยอะมากแล้วกับเงินหลักหมื่นที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต

 

 หลังจากเข้าทำงานได้สักพักฉันก็ได้รู้จักรุ่นพี่หลายคนที่ทำงานอยู่ในนั้นมาก่อน หลายคนมีสามีและมีครอบครัวแล้ว และมีอีกหลายคนที่ยังเรียนอยู่ ส่วนใหญ่จะเรียนที่ ม.รามคำแหงกัน ทุกคนให้เหตุผลว่าที่เรียนต่อเพราะต้องการมีชีวิตที่ดีกว่านี้และต้องการวุฒิการศึกษาเพื่อสมัครงานใหม่ที่ได้ตำแหน่งและเงินเดือนสูงกว่า ฉันจึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ตัวเองจะต้องคิดถึงเรื่องเรียนต่อบ้าง ฉันจึงได้สมัครเรียนต่อศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน เรียกชื่อย่อว่า กศน.โดยการอ่านหนังสือเองและมาสอบตามกำหนด พอเรียนจบได้วุฒิ ม.6 แล้วบวกกับฉันเริ่มเบื่อการใช้ชีวิตในเมืองกรุงแล้วจึงคิดอยากมาเรียนต่อให้เป็นกิจจะลักษณะ  แต่เนื่องจากยังหาเป้าหมายในชีวิตไม่เจอเหมือนเดิมจึงไม่รู้จะเรียนอะไร ตอนนั้นเรื่องของคอมพิวเตอร์กำลังดังและคนที่เรียนจบด้านคอมพิวเตอร์เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานจำนวนมาก ฉันจึงตัดสินใจสมัครเรียนต่อสาขาคอมพิวเตอร์กับมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งโดยใช้เงินเก็บจากการทำงานมาเป็นค่าลงทะเบียนเรียน และขอกู้กับกองทุนกยศ. แต่การเรียนต้องใช้เวลาหลายปี เงินเก็บที่มีคงไม่พอ และเงินกู้ กยศ.ที่จ่ายให้รายเดือนก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี พออยู่ปี 3 ดิฉันจึงได้ไปทำงานอยู่ที่ร้านนมสดหลังมหาวิทยาลัยขอนแก่นเพื่อจะได้มีค่าใช้จ่ายรายเดือนเพิ่มขึ้น ฉันต้องไปเตรียมเปิดร้านตั้งแต่ 4 โมงเย็น ปิดร้านตี 2 และตื่นตั้งแต่ 7 โมงเช้าเพื่อไปเรียนหนังสือ บางวิชาที่เรียนภาคเช้า คุณเชื่อไหมคะว่าแต่ละวันที่ไปเรียนเนื้อหาในวิชาที่เรียนไม่ได้ซึมเข้าสู่สมองเลย เพราะมันเบลอจากการนอนน้อย แต่ก็นั่นล่ะ คิดซะว่าชีวิตมันก็ต้องอดทน จึงเรียนไปทำงานไปถู ๆไถ ๆ จนเรียนจบปริญญาตรี ครอบครัวฉันดีใจกันทุกคนเลย ฉันเป็นคนแรกของครอบครัวที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี เพระทุกคนที่บ้านล้วนแต่จบ ป.4 ไม่มีใครเคยคิดฝันว่าจะมีโอกาสมางานรับปริญญา แต่ฉันก็ทำได้สำเร็จ หลังจากที่เลิกเรียนกลางคันมาก่อน

a-lisa.net

ความภูมิใจของพ่อกับแม่ในวันที่ลูกได้รับปริญญา

 

วัยทำงาน

อ่านมาถึงตรงนี้คุณคงเห็นแล้วใช่ไหมค่ะว่าเส้นทางชีวิตของฉัน ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเลย จากลูกชาวนา แต่เพราะอยากเจอโลกกว้างจึงได้ตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปทำงานกรุงเทพฯ อ้อฉันเล่าข้ามไปนิดนึง ตอนระหว่างที่ทำงานอยู่ในร้านขายนมสดที่หลังมหาลัย ฉันเห็นนักศึกษาหลายคนมานั่งทานที่ร้าน ฉันเห็นพวกเขามีความสุขตามวัยของพวกเขา และยังได้เรียนในสถาบันการศึกษาชั้นนำอีก ทำให้ฉันอิจฉาพวกเขามาก ๆ เลย ตัวฉันเองอยู่ในวัยเดียวกันกับพวกเขา หลังเลิกเรียนแทนที่จะได้ไปพักผ่อนเที่ยวเล่นกับเพื่อน หรือแม้แต่มานั่งทานนมสดแบบนี้ แต่ตัวเองต้องมาทำงานจนดึกดื่นเพื่อแลกกับค่าแรงเดือนละ 4000 บาท หลังจากเรียนจบฉันจึงคิดอยากจะทำงานกลางวันดูบ้างเพราะเหนื่อยกับการอดหลับอดนอนมาหลายปี จึงขอลาออกและไปทำงานเป็นพนักงานอยู่บริษัทรถยนต์ ตำแหน่งพนักงานขาย มีรายได้ต่อเดือนๆละหลายหมื่นบาท แต่ในระหว่างที่เป็นพนักงานขายรถอยู่นั้นฉันมีหน้าที่ต้องติดต่อเพื่อขอสินเชื่อรถยนต์ให้กับลูกค้าด้วย ผู้ให้สินเชื่อคือสถาบันการเงินหรือธนาคาร ซึ่งจะต้องส่งเจ้าหน้าที่สินเชื่อ หรือบางทีเรียกว่าMarketing มาเซ็นต์สัญญาเช่าซื้อกับลูกค้า พนักงานพวกนี้ดูเท่ห์มากในสายตาของฉันมาก ทุกคนจะขับรถเก๋งคันโก้ แต่งตัวดูดีด้วยเสื้อผ้าและของใช้ราคาแพง การที่เราจะขายรถได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่ที่พวกเขาเหล่านั้นจะอนุมัติสินเชื่อให้หรือลูกค้าของเราจะมีคุณสมบัติพอที่พวกเขาจะให้ผ่านการอนุมัติสินเชื่อไหม ในตอนนั้นฉันอยากเป็นเหมือนพวกเขามากเลย ได้แต่คิดว่าทำยังไงถึงจะได้งานนั้น จะต้องไปสมัครงานที่ไหน ยังไงดีเพราะในตอนนั้นคนที่จะเข้าทำงานสถาบันการเงินได้จะต้องจบจากมหาวิทยาลัยของรัฐ เกรดเฉลี่ยสูง ตัวฉันเองไม่มีคุณสมบัติเหล่านั้นเลยเพราะต้องเรียนด้วยทำงานด้วยเกรดเฉลี่ยจึงไม่ดีและแถมยังเรียนจบจากสถาบันการศึกษาของเอกชน  แต่ฉันก็ไม่ได้ย่อท้อ จึงได้เริ่มหาข้อมูลและกรอกข้อมูลสมัครงานทิ้งไว้ทางอินเตอร์เน็ต และหลังนั้นฉันจึงมาเริ่มต้นค้นหาตัวเองใหม่อีกครั้งว่ามายืนอยู่จุดนี้ได้อย่างไร คำตอบที่ได้คือการศึกษาทำให้ชีวิตฉันเปลี่ยนแปลง ดังนั้นฉันจึงได้ลงทะเบียนเข้าศึกษาต่อปริญญาโท MBA .รามฯ เพราะคิดว่านี่จะเป็นโอกาสให้ฉันได้เปิดโลกใบใหม่ในชีวิตอีกครั้ง และปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น หลังจากฉันเข้าเรียนได้ประมาณเทอมที่ 2 ฉันได้รับโทรศัพท์จากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง โทรนัดวันเวลาให้ไปสัมภาษณ์งานเพื่อเข้าทำงานตำแหน่งเจ้าหน้าที่สินเชื่อ สมดังที่ฉันได้ตั้งใจไว้ ฉันผ่านการสัมภาษณ์งานได้เข้าทำงานที่สถาบันการเงินแห่งนั้นจริง ๆ ทุกวันนี้ยังรู้สึกซาบซึ้งใจและรู้สึกขอบคุณผู้บริหารที่ได้ให้โอกาสฉันได้เข้ามาทำงานในสถาบันการเงินแห่งนี้ในวันนั้น ฉันได้รับมอบมิตรภาพที่ดีระหว่างเพื่อนร่วมงาน   ด้วยกัน ทำให้ฉันมีความสุขในการทำงานอยู่ในสถาบันการเงินแห่งนี้นานถึง 7 ปี ได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ไม่คาดคิดว่าลูกชาวนาจากบ้านนอกคนหนึ่งจะมีโอกาสได้ขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรกในชีวิตเพื่อเดินทางไปอบรมที่กรุงเทพฯ ตอนนั้นมันรู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ เลย       ได้เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นครั้งแรกในชีวิต ไหนจะมีตัวเลขรายได้ต่อเดือนที่แตะเดือนละหกหลักทุกเดือน ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่และสถานะทางสังคมของฉันดีขึ้นมาก  ทุกวันนี้แม้จะว่าลาออกจากสถาบันการเงินแห่งนั้นมาแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกขอบคุณถึงโอกาสที่ได้รับและมิตรภาพของเพื่อนร่วมงานที่นั่นเสมอ สมกับที่ตั้งใจว่าอยากจะทำงานในตำแหน่งและอาชีพนี้จริงๆค่ะ

 

a-lisa.net
เป็นพนักงานธนาคาร

 

a-lisa.net
เที่ยวต่างประเทศครั้งแรก

 

 

เริ่มต้นธุรกิจส่วนตัว

 

หลังจากการทำงานอย่างหนักหน่วงที่สถาบันการเงินแห่งนั้น     มาได้ประมาณ 7 ปี ที่ต้องบอกว่าหนักหน่วงเพราะคงไม่มีบริษัทไหนที่จ้างเราแพง แต่ให้เราทำงานแบบสบายๆ เช้าชามเย็นชามหรอกนะคะ ฉันเริ่มคิดที่จะอยากทำธุรกิจส่วนตัว แต่ด้วยความที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อน เคยแต่เป็นลูกจ้างและครอบครัวก็ทำนาจึงไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี จนได้เจอคอร์สอบรมเรื่องธุรกิจอสังหาฯ และอยากได้ความรู้เพิ่มจึงสมัครเข้าอบรม ก็ได้รับความรู้เรื่องงานก่อสร้าง การทำบ้านจัดสรรและโรงแรม การอบรมในหลักสูตรนี้ก็ทำให้ฉันสนใจอยากจะทำธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กดูบ้าง  ประกอบกับบ้านของฉันซึ่งอยู่ในอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย มีสะพานมิตรภาพน้ำเหือง ไทยลาว และกำลังมีการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวในจังหวัด ฉันจึงอยากสร้างสถานที่สำหรับไว้ให้นักเดินทางที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดเลย และอยากจะเดินทางข้ามไปลาวทางสะพานมิตรภาพน้ำเหือง ให้ลูกค้าได้มีสถานที่พักผ่อนที่น่าจดจำบ้าง ฉันจึงตัดสินใจลงทุนทำธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กในสไตล์บูติกโฮเท็ล ตั้งอยู่ที่ด้านหลังบ้านพักของครอบครัวเรา ตั้งชื่อว่า โรงแรมLe bar tarry ออกแบบด้วยไสตล์โพรว๊องซ์ซึ่งเป็นเมืองทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส เพื่อให้ตัวอาคารมีความโดดเด่นและแตกต่าง ฉันอยากให้ลูกค้าที่มาเข้าพักใช้บริการ รวมทั้งคนในอำเภอท่าลี่รู้สึกภาคภูมิใจว่า ถึงแม้เราจะเป็นอำเภอเล็ก ๆ ที่ห่างไกล แต่เราก็ยังมีสถานที่พักที่สะอาด สะดวกสบาย และปลอดภัย

 

บทส่งท้าย

จุดเปลี่ยนของแต่ละช่วงชีวิตของฉัน คุณคงเห็นแล้วว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย แม้ว่าวันนี้ฉันจะยังไม่ประสบความสำเร็จในธุรกิจตามที่ตั้งเป้าไว้มากนัก แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันก้าวเดินมาถึงตรงนี้ได้คือการเป็นคนรักการอ่าน ให้ความสำคัญกับการศึกษา  มีความอดทดและมุ่งมั่นทำงานอย่างจริงจัง แม้แต่ในตอนนี้ฉันก็ยังพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะเสาะหาวิชาความรู้เพื่อนำมาพัฒนาตนเอง พัฒนาอาชีพเพื่อก้าวไปสู่ความฝันและเป้าหมายที่ได้วางไว้

คุณคงทราบดีนะคะว่าโลกของเราปัจจุบันเปลี่ยนแปลงเร็วมาก และในยุคแห่งการสื่อสารไร้พรมแดนนี้ คุณสามารถหาข้อมูลที่คุณอยากรู้ได้เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วคลิกเท่านั้น ฉะนั้นแล้ว สำหรับคนที่มีความฝันจงอย่าหยุดนิ่งอยู่กับที่ อย่ากลัวที่จะเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ๆ มาสร้างความฝันของคุณให้กลายเป็นจริง เริ่มต้นด้วยการสร้างธุรกิจขายฝันเล็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทขนาดเล็ก หรือจะเป็นธุรกิจแบบไหนที่คุณชอบ ขอแค่คุณเริ่มต้นตัดสินใจและลงมือทำ  ความสำเร็จจะเป็นของคุณอย่างแน่นอนค่ะ

 

เราเชื่อว่าการแบ่งปันความรู้ คือพลังที่ยิ่งใหญ่

 

line

มาเป็นเพื่อนกับเราทางไลน์!!!

ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารและบทความดีๆ

Line Official: @a-lisa.net

Add Friend

————————————————————————————————————————————————————————

หนังสือธุรกิจโรงแรม
.

มาแล้ว!!! หนังสือสำหรับคนอยากเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรม-รีสอร์ทขนาดเล็ก

หนังสือเล็ก ๆเล่มนี้ จะช่วยคุณสร้างความฝันที่ยิ่งใหญ่ให้เป็นจริงได้

ด่วน ๆๆๆจ้า หนังสือมีจำนวนจำกัด คลิ๊กดูรายละเอียด